3 วิธีชงชา เครื่องชงกาแฟ ถุงกรอง แช่ชา ต่างกันยังไง ?

วิธีชงชา วิธีชงกาแฟ กับการชงเครื่องดื่มขายบอกเลยว่ามีหลากหลายวิธีมาก ๆ ยิ่งในปัจจุบันนี้การมีจุดขายที่แตกต่างจึงนับว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะช่วยดึงดูดลูกค้าให้อยากเข้าไปใช้บริการมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Moka pot, French Press, Drip หรือ Cold Brew เป็นต้น

3 วิธีชงชา ขั้นพื้นฐานต่างกันอย่างไร ?

1. เครื่องชงกาแฟ

อุปกรณ์ชงชา ชงกาแฟ ที่นับว่าเป็นอันดับต้น ๆ เลยก็ว่าได้ที่ร้านส่วนใหญ่เลือกใช้กัน ไม่ว่าจะเป็นร้านกาแฟเล็ก ๆ คาเฟ่ขนาดกลาง คาเฟ่ขนาดใหญ่ เพราเครื่องชงกาแฟ ถือเป็นอุปกรณ์หลักที่สามารถชงเครื่องดื่มได้ง่าย วิธีการทำงานนไม่ซับซ้อน ที่สำคัญคือใช้เวลาในการชงเครื่องดื่มไม่นาน ลูกค้าไม่ต้องรอนานก็ได้ดื่มเครื่องดื่มสุดโปรดแล้ว และเครื่องชงกาแฟนี้ ไม่ใช่เพียงแค่ชงกาแฟได้อย่างเดียว แต่ยังสามารถนำมาชงชา นำมาสตรีมนมทำเป็นฟองนมท็อปปิ้งบนเครื่องดื่ม ทำลวดลายลาเต้อาร์ตได้อีกด้วย ถือว่าสะดวกสบายสุด ๆ ทั้งยังมีหลายขนาด หลายฟังก์ชั่นให้ได้เลือกใช้กัน ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละร้าน

วิธีการชงด้วยเครื่องชงกาแฟ คือ การตักกาแฟบด หรือใบชาบด ใส่ในก้านชง แล้วนำเข้าเครื่องชงสกัดน้ำกาแฟ น้ำชาออก แล้วนำมาชงเครื่องดื่มได้เลย

ตัวอย่างสูตรชงจากเครื่องชงกาแฟ : เมนูชามะนาว

อัตราส่วนผสม

ผงชาสด 15 กรัม
น้ำมะนาว 15 มิลลิลิตร
น้ำเชื่อม 30 มิลลิลิตร
น้ำแข็ง

ขั้นตอนการทำ

ตักผงชาสดใส่ในก้านชง นำเข้าเครื่องชงสกัดน้ำชาให้ได้ 150 มิลลิลิตร (5 ออนซ์)
เติมน้ำมะนาวลงไป คนให้เข้ากัน
แล้วเติมน้ำเชื่อมลงไป คนอีกครั้งให้เข้ากัน
ตักน้ำแข็งใส่ในแก้ว
ค่อย ๆ เทส่วนผสมลงในแก้ว เป็นอันเสร็จ

2. ถุงกรอง

การชงชาที่ไม่ต้องลงทุนเยอะเท่ากับการเลือกใช้เครื่องชงกาแฟ จึงมักจะพบเห็นได้ตามร้านในหมู่บ้าน ร้านเล็ก ๆ ในตลาด ซึ่งสามารถใช้ชงชา ชงกาแฟได้หลากหลายเมนูมาก ๆ โดยเฉพาะเมนูกาแฟโบราณ โอเลี้ยง ชาชัก ชาเขียว เป็นต้น สำหรับใครที่อยากจะเปิดร้านกาแฟ ร้านขายเครื่องดื่มและมีต้นทุนน้อย แนะนำเลยว่าการชงเครื่องดื่มด้วยถุงกรองเป็นทางเลือกที่ดีมาก ๆ ไม่ต้องลงทุนเยอะ แถมยังได้เครื่องดื่มที่อร่อยกลมกล่อมเข้มข้นอีกด้วย แต่มีข้อแนะนำว่าไม่ควรใช้ถุงกรองอันเดียวในการชงทุกเมนู เพราะจะทำให้เครื่องดื่มมีกลิ่น มีรสชาติปะปนกัน จะทำให้เครื่องดื่มไม่อร่อยนั่นเอง ดังนั้นควรแบ่งถุงกรองในการชงแต่ละเมนูด้วย และควรล้างทำความสะอาดทุกวันหลังจากปิดร้าน

วิธีการชงด้วยถุงกรอง คือ การตักใบชาหรือผงกาแฟ ใส่ในถุงกรอง แล้วให้เทน้ำร้อนผ่านลงไป จากนั้นให้เทสลับไปมา 4-5 รอบ เพื่อให้ได้รสชาติ กลิ่นหอม ของชา กาแฟอย่างชัดเจน แล้วกรองกากออกให้หมด แล้วให้นำไปชงเครื่องดื่มได้เลย

ตัวอย่างสูตรชงจากถุงกรอง : เมนูชาเขียวโบราณ

3. แช่ชา

การแช่ชา วิธีนี้เหมาะมาก ๆ กับใบชาอบแห้งเช่น ชามะลิใส เปเปอร์มินต์ และสำหรับร้านที่ต้องการชงเครื่องดื่มขายในปริมาณที่เยอะ อย่างการชงชาขาย 4 ลิตร การชงกาแฟโบราณ 3 ลิตร การทำขายแบบชาขวด ขายส่งให้กับร้านค้าอื่น ๆ หรือแม้แต่การชงขายแบบร้านชาไข่มุกบุฟเฟต์ ที่ชงใส่เครื่องจ่ายน้ำหวาน แล้วให้ลูกค้าสามารถกดเครื่องดื่มได้ตามใจชอบ ซึ่งวิธีนี้นับว่าสะดวกมาก ๆ ทั้งยังทำได้กับเมนูชา เมนูกาแฟ บอกเลยว่าใครที่ต้องการอาชีพเสริม ทำน้ำชาขายเป็นขวด ๆ เลือกใช้วิธีนี้ได้เลย

วิธีการชงด้วยการแช่ชา คือ เริ่มต้นด้วยการต้มน้ำให้เดือด (ปริมาณน้ำขึ้นอยู่กับน้ำชาที่ต้องการ) เมื่อน้ำเดือดแล้วให้ปิดเตา จากนั้นให้เทชา หรือผงกาแฟลงใน แล้วคนเล็กน้อยจากนั้นให้แช่ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที แล้วให้กรองกากใบชาออก เท่านี้ก็สามารถนำน้ำชาที่ได้ไปชงเครื่องดื่มขายได้แล้ว

ตัวอย่างสูตรชงจากการแช่ชา : เมนูกาแฟโบราณแบบลิตร

Advertisements

อัตราส่วนผสม

กาแฟโบราณ 2 ลิตร
น้ำเปล่า 2 ลิตร
นมข้นหวาน 400 มิลลิลิตร
นมข้นจืด 380 มิลลิลิตร
น้ำตาลทราย 240 กรัม
ครีมเทียม 160 กรัม

ขั้นตอนการทำ

เทน้ำลงในหม้อ แล้วมาวางบนเตาเปิดไฟกลาง รอจนน้ำเดือดและให้ปิดไฟ
เติมกาแฟโบราณลงไป คนให้ละลายเล็กน้อย แล้วแช่ไว้ 5 นาที
ครบเวลาแล้ว ให้กรองกากกาแฟออก
เติมน้ำตาลทราย ครีมเทียม ลงในน้ำกาแฟแล้วคนให้ละลายจนหมด
จากนั้นให้เติมนมข้นหวาน นมข้นจืด แล้วคนให้ส่วนผสมเข้ากัน
พักทิ้งไว้ให้เย็น ก็สามารถพร้อมขายแล้ว จะบรรจุขวดขายหรือตักเป็นแก้วขายก็ได้

สรุปแล้วการชงเครื่องดื่มจากเครื่องชงกาแฟ ถุงกรอง แช่ชา มีความแตกต่างกันยังไง ?
การชงเครื่องดื่ม จากอุปกรณ์การชงทั้ง 3 ประเภทนี้มีความแตกต่างกันตั้งแต่งบประมาณในการลงทุน อย่างเครื่องชงกาแฟจะมีต้นทุนที่สูง ต่างจากถุงกรอง การแช่ชา
รวมไปถึงวิธีการชง เพราะเครื่องชงกาแฟสามารถชงได้ทั้งผงชา ผงกาแฟ แต่ในการชงหนึ่งครั้งจะชงในปริมาณมากไม่ได้ ส่วนถุงกรองนั้นสามารถชงได้ทั้งกาแฟและชาเช่นกัน
แต่จะใช้เวลาในการแช่เล็กน้อยและต้องกรองเพื่อเทน้ำชาสลับไปมา นิยมใช้กับเมนูโบราณ และสุดท้ายคือการแช่ชาวิธีนี้เหมาะกับใบชาที่ไม่มีลักษณะบดหยาบ หรือวัตถุดิบตามธรรมชาติเช่น ดอกอัญชันอบแห้ง กระเจี๊ยบอบแห้ง รวมไปถึงยังเหมาะกับการชงชากาแฟแบบลิตร การทำเบสชา เพราะต้มน้ำในปริมาณเยอะ ๆ ได้ นับว่าสะดวกสบายมากสำหรับร้านที่ขายในปริมาณเยอะ ๆ ต่อวัน

เป็นยังไงกันบ้างกับการชงแบบพื้นฐานที่ทำตามกันได้ง่าย ๆ จะเลือกชงแบบเครื่องชง ชงแบบถุงกรอง ชงแบบแช่ชา ก็ทำได้ทั้งหมดแล้วแต่ความสะดวกของร้าน ทั้งนี้การจะชงเครื่องดื่มให้อร่อยกลมกล่อมโดนใจลูกค้า ไม่ใช่เพียงแค่ขายไปวัน ๆ เท่านั้น แต่ทุกร้านควรใส่ใจในรายละเอียดต่าง ๆ ทั้งวัตถุดิบที่ต้องใช้ อุปกรณ์สำหรับงชง เพื่อชูรสชาติที่ดีและเสิร์ฟเครื่องดื่มที่มีคุณภาพให้กับลูกค้าทุกคน

และสำหรับร้านไหนที่อยากจะเอาใจลูกค้าให้เลือกซื้อเครื่องดื่มร้านของคุณ แนะนำว่าควรเลือกใช้ใบชาที่ดีมีคุณภาพของโรงคั่วชาเชียงใหม่ bluemocha ที่ผ่านกระบวนการผลิตที่ได้รับมาตรฐาน ใบชาที่ดีจะช่วยชูรสชาติให้เข้มข้น มีกลิ่นหอมน่าลิ้มลอง แถมยังมีให้เลือกใช้กันมากกว่า 30 รายการเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น ผงชาแดงพรีเมียมชงชาไทยเข้มข้น
ผงชาเขียวพรีเมียมชงชาเขียวเย็นสุดอร่อย ผงชาไต้หวันพรีเมียมสำหรับชงชานมบราวน์ชูการ์เอาใจลูกค้า ผงโกโก้ ผงมัทฉะที่หอมเข้มข้น ชาเบอร์รี่ ชาพีช ชากุหลาบ ชาอัญชัน ชาสด ชาผลไม้ชาดอกไม้จากวัตถุดิบตามธรรมชาติ และสินค้าใบชาอื่น ๆ อีกมากมาย นำไปชงเป็นแก้ว หรือชงแบบลิตรขายก็ทำได้เลย

สำหรับใครที่ยังกังวลในเรื่องของการชงกาแฟ การขายชานมไข่มุก หรือแม้แต่ปัญหาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับร้านกาแฟร้านชาไข่มุก บอกเลยว่าเรามีเคล็ดลับต่าง ๆ มากมายในการช่วยแก้ไขปัญหาข้องใจ ตั้งแต่วิธีเก็บรักษาชากาแฟ การเลือกแพ็กเกจจิ้งใส่เครื่องดื่ม การทำป้ายเมนูหน้าร้าน มาตราชั่งตวงเพื่อให้ได้สูตรชงคงที่ การเลือกซื้อเลือกใช้อุปกรณ์ภายในร้าน ตลอดจนไปถึงการเพิ่มยอดขายให้กับร้านด้วยการทำโปรโมชั่นร้านกาแฟ การทำกลยุทธ์เพิ่มกำไร การขายผ่านช่องทางออนไลน์ การเพิ่มช่องทางชำระเงินให้กับลูกค้า และบทความเพิ่มเติมอีกมากมาย คลิกดูได้เลย