วิธีสมัครร้านค้า Shopee Food ทำยังไง ?

Shopee Food Delivery บริการ Food Delivery shopee food สมัครร้านค้า ทางเลือกใหม่ทั้งสำหรับร้านค้า ไรเดอร์ และลูกค้า ที่เปิดให้บริการสั่งและจัดส่งอาหาร เครื่องดื่ม แบบเดลิเวอรี่ ซึ่งถือว่าตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ดีไม่แพ้บริการเดลิเวอรี่อื่น ๆ เลยก็ว่าได้ ว่าแล้วก่อนจะสมัครเข้าร่วมบริการ เราลองมาทำความรู้จัก Shopee กันก่อนเลย

Shopee คือ ?

Shopee นับว่าเป็นบริการ e-commerce ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย ซึ่งให้บริการทั้งขายสินค้าหลากชนิด ทั้งผู้ค้ารายย่อย ผู้ค้ารายใหญ่อย่างแบรนด์ดัง
รับบริการชำระบิล สินค้าดิจิทัล มีระบบจัดเก็บคะแนน หรือ Shopee coin มีกระเป๋าเงินออนไลน์อย่าง Shopee pay ที่สามารถเติมเงินเข้าระบบ จ่ายค่าสินค้า บริการ
หรือแม้กระทั่งยังสามารถเป็นช่องทางชำระเงินได้ตามร้านค้าที่มีหน้าร้านทั่วไป รวมไปถึงบริการขนส่งสินค้า Shopee Express เพื่อรองรับการขนส่งสินค้า
และในปัจจุบันนี้ได้บุกตลาดของ Food Delivery และเปิดบริการ Shopee Food อย่างเป็นทางการเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้นนั่นเอง

สมัคร ShopeeFood ติดต่อ Facebook Page หรือ AddLine : @spfoodmerchant
เบอร์โทรศัพท์ : 02-1189159
หรือคลิกสมัครได้ที่นี่

อ่านเพิ่มเติม สมัครขายของ Tiktok Shop

วิธีสมัคร Shopee Food ทำยังไง ?

1. เตรียมเอกสารให้พร้อม

เอกสารคือสิ่งที่สำคัญมาก สำหรับใครที่อยากจะสมัครเข้าร่วมบริการ Shopee Food ต้องเตรียมเอกสารดังต่อไปนี้ สำเนาบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ต, หนังสือรับรองบริษัท (อายุไม่เกิน 3 เดือน), ใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.20), หนังสือมอบอำนาจ (กรณีเป็นการมอบอำนาจ), หน้าสมุดบัญชีธนาคาร, เอกสารจำเป็นอื่น ๆ เช่นใบประกอบธุรกิจในไทยและพำนักในประเทศไทย ซึ่งเอกสารที่กล่าวมาข้างต้นจะต้องยื่นใช้นั้น ขึ้นอยู่กับประเภทของธุรกิจอย่าง บุคคลธรรมดา นิติบุคคล ชาวต่างชาติ

หมายเหตุ

บัตรประชาชน วางบนกระดาษ A4
เซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง (เขียนชื่อ-นามสกุล-ลายเซ็น)
เซ็นด้วย ปากกาหมึกสีน้ำเงิน หรือ เซ็นแบบดิจิทัล
ระบุข้อความ “ใช้สำหรับสมัครเข้าร่วมโครงการ ShopeeFood PARTNERS เท่านั้น”
สำหรับ หนังสือรับรองบริษัท และ ภ.พ.20 ต้องประทับตราตามหนังสือรับรอง

2. ต้องมี Google account (สำหรับใครมีอยู่แล้วข้ามขั้นตอนนี้ได้เลย)

การจะสมัครเข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์ของช้อปปี้ฟู้ด จะต้องมี Google account หรืออีเมลนั่นเอง ซึ่งใครที่สมัครไม่เป็น สามารถทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ได้

2.1 พิมพ์หน้า Google ว่า “สมัครอีเมล”
2.2 กดสร้างบัญชี Google ของคุณ
2.3 กรอกข้อมูลส่วนตัว พร้อมกับตั้งชื่ออีเมลของคุณ และรหัสผ่าน (หากกลัวลืมให้แคปหรือจดไว้ได้เลย)
2.4 กรอกข้อมูลติดต่อ วันเดือนปีเกิด รายละเอียดเพิ่มเติมที่มี คลิก “ถัดไป” จนได้อีเมลของท่าน

3. ขั้นตอนการสมัคร

3.1 เจ้าของกิจการต้องติดต่อผ่านทาง Facebook Page หรือ Line OA ของ @spfoodmerchant
3.2 กรอกข้อมูลการสมัคร ผ่านลิงก์ (คลิกที่นี่)
3.3 รอการตรวจสอบข้อมูลและนำร้านเข้าสู่ระบบ ระยะเวลาดำเนินการภายใน 7 วัน
3.4 เข้าเช็กอีเมลเพื่อรับ Username/Password สำหรับการเข้าระบบ Shopee Partner
3.5 นำ Username/Password เข้าสู่ระบบ และเปิดร้านขายสินค้าผ่าน ShopeeFood ได้เลย

หมายเหตุ

กรณีที่กรอกข้อมูลไม่ครบ หรือผิดพลาด ทาง ShopeeFood จะติดต่อท่านเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม

สำหรับบริการสั่งและส่งอาหารเดลิเวอรี่ ShopeeFood นั้นมีค่าส่งเริ่มต้นอยู่ที่ 10 บาท และคิดค่า GP เฉลี่ยอยู่ที่ 32 % ซึ่งร้านเองก็ควรคำนวณราคาสินค้าก่อนจำหน่าย
สำหรับลูกค้านั้นสามารถเลือกชำระค่าบริการ ค่าอาหาร ได้ทั้งหมด 5 ช่องทาง ได้แก่ ผ่านบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต, โอนเงินหรือชำระผ่านบัญชีธนาคาร, ชำระผ่าน Mobile banking,
ผ่าน Shopee Pay, และการชำระเงินปลายทาง, และนอกจากนี้ก็ยังใช้ Shopee Coin แทนเงินสดในการสั่งอาหารได้อีกด้วย บอกเลยว่าสะดวกสบายทั้งลูกค้าและร้านค้า และอีกหนึ่งสิ่งที่เจ้าของร้านไม่ควรพลาดก็คือ การเลือกใช้บัญชีธนาคารเพื่อรับยอดขาย ซึ่งธนาคารที่แนะนำให้เลือกใช้คือ ธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกรุงไทย, เพราะจะได้รับยอดขายในวันถัดไปไม่เกิน 12:00 น. (ไม่มีขั้นต่ำ) นอกจากธนาคารที่กล่าวมาจะใช้เวลาดำเนินการเพิ่ม 2 วันทำการ

ทั้งนี้สำหรับใครที่สนใจ และอยากเข้าสมัครเข้าร่วมก็สามารถทำได้เลย บอกเลยว่าถือว่าเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ดีมาก ๆ เพราะการเพิ่มยอดขายในยุคปัจจุบันนี้จะรอให้ลูกค้ามาซื้อที่หน้าร้านอย่างเดียวไม่ได้ ยิ่งคู่แข่งทางธุรกิจมีเยอะมาก การหาช่องทางในการเพิ่มยอดขายจึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง การเข้าร่วมบริการ Food Delivery สามารถที่จะสมัครเข้าร่วมได้หลายบริการ เพราะการมีช่องทางให้สั่งซื้อเยอะ ก็จะเป็นตัวเลือกและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างหลากหลายนั่นเอง

และเพื่อความสะดวกในการบริการลูกค้า จัดการหน้าร้านค้าของคุณได้อย่างแม่นยำ ที่สำคัญช่วยให้คุณประหยัดเวลาในการบริการลูกค้าได้มากขึ้น การเลือกใช้ระบบ pos จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการใช้งานควบคู่กับการขายผ่านช่องทางออนไลน์ เพราะระบบ pos หรือระบบจัดการหน้าร้าน ระบบขายหน้าร้าน นี้จะช่วยให้คุณบริหารร้านค้า บริหารพนักงานได้อย่างสะดวก ไม่ว่าจะเป็นการคำนวณยอดขายกำไร-ขาดทุน รายงานการขายอัตโนมัติ ช่วยเช็กสต็อกสินค้าขาดหายได้ดี และสะดวกสบายมาก ๆ ถ้าคุณเปิดร้านบนแอปฯ Food Delivery ระบบก็จะช่วยคำนวณค่า GP ให้อัตโนมัติ จะเปิดร้านขายกี่แอปฯ ก็ไม่ต้องกังวล

อย่างเช่นถ้าคุณเปิดร้านบนแอปฯช้อปปี้ฟู้ด แค่เลือกใช้ระบบ tobi pos คุณก็สามารถกำหนดค่าคอมมิชชั่นได้เลย เมื่อมีลูกค้าสั่งออเดอร์เมนูผ่านแอปฯแล้ว คุณก็สามารถมาบันทึกรายการผ่าน tobi pos ได้เลย ระบบก็จะขึ้นว่าออเดอร์นี้สั่งซื้อผ่านบริการเดลิเวอรี่ช้อปปี้ฟู้ด และคำนวณค่า GP ตามที่คุณกำหนดไว้ได้อย่างแม่นยำ

“tobi pos ระบบขายหน้าร้าน ระบบจัดการหน้าร้านค้า ที่จะช่วยจัดการออเดอร์ของคุณ ให้สะดวก รวดเร็ว ลดความผิดพลาด คำนวณเงินได้อย่างแม่นยำ พร้อมเก็บข้อมูลเพื่อใช้สำหรับการวิเคราะห์ธุรกิจ และใช้งานได้ทันทีผ่านโทรศัพท์มือถือ แบบไม่ต้องติดตั้งเครื่อง”

เพราะการเปิดร้านกาแฟ ร้านชาไข่มุก ผ่านทางออนไลน์ไม่ใช่เรื่องที่ง่าย ดังนั้นการเอาใจใส่ลูกค้า เพื่อเป็นตัวเลือกในดวงใจของลูกค้าจึงไม่ควรมองข้าม และจุดขายที่ดีอีกหนึ่งอย่างสำหรับร้านเครื่องดื่มก็คือ การมีเครื่องดื่มรสชาติดี อร่อยกลมกลมถูกปากลูกค้า เพราะเครื่องดื่มอร่อยใคร ๆ ก็ชอบ ดังนั้นหากอยากชูจุดขายนี้บอกเลยว่าควรต้องเลือกใช้ใบชาที่มีคุณภาพ เมล็ดกาแฟที่ดี ของโรงคั่วชาเชียงใหม่ blumocha ที่ผ่านกระบวนการผลิตอย่างสะอาด โรงงานผลิตได้รับมาตรฐาน แถมมีใบชาให้ได้ใช้กันกว่า 30 รายการ ไม่ว่าจะเป็น ชาเขียวพรีเมียมหอมๆ ชาเขียวเชียงใหม่ ชาเขียวพี่ยักษ์ ชงชาเขียวนม ชาเขียวปั่น ชาเขียวมะลิสำหรับร้านไหนที่อยากได้ชาเขียวมีกลิ่นมะลิ ชาแดงพรีเมียมชงชาไทยอร่อยมาก ชาไต้หวันพรีเมียมชงชานมไข่มุก ผงโกโก้เข้มข้น ผงมัทฉะแท้ๆ กาแฟโบราณ รวมไปถึงชาใส ชาผลไม้ ชาดอกไม้ อย่าง ชาพีช ชาเบอร์รี่ ชาสด ชาอัญชัน ชากุหลาบ และสินค้าอื่น ๆ อีกมากมาย