เทคนิคเลือกซื้อเมล็ดกาแฟคั่ว คงกลิ่นรสชาติที่ดีไม่เสื่อมคุณภาพ

เมล็ดกาแฟคั่ว กาแฟสด  รสชาติของกาแฟที่มีความธรรมชาติมากที่สุด ช่วยให้เมนูกาแฟทุกแก้วมีความหอม บางแก้วมีความเปรี้ยว มีความเข้ม ผสมผสานกันอย่างลงตัว และเป็นเมนูเครื่องดื่มที่นิยมกันอย่างมาก ทั้งยังดื่มได้แบบเมนูร้อน เมนูเย็น นำไปรังสรรค์ร่วมกับเมนูเครื่องดื่มอื่น ๆ  ก็อร่อยกลมกล่อม

Advertisements

เชื่อว่าเจ้าของร้านกาแฟ หรือใครที่กำลังอยากจะทำธุรกิจเปิดร้านกาแฟ เปิดคาเฟ่ ก็ต้องเลือกสรรเมล็ดกาแฟคั่ว กาแฟสดที่ผ่านกระบวนการผลิตที่ดี แม้กาแฟจะมีสี มีกลิ่นที่คล้ายกัน แต่ในแต่ละยี่ห้อที่นำมาบรรจุขาย เมื่อนำมาชงเครื่องดื่มก็ย่อมให้รสชาติที่ต่างกันนั่นเอง วันนี้ทาง bluemocha เราก็ไม่พลาดที่จะมีเทคนิคการเลือกซื้อเมล็ดคั่วบดมาแบ่งปันกัน เพราะเมล็ดกาแฟคั่วที่ดีจะช่วยให้เครื่องดื่มอร่อย ดึงดูดลูกค้าเข้าร้านได้อย่างต่อเนื่อง

เมล็ดกาแฟคั่ว

 5 เทคนิคเลือกซื้อ เมล็ดกาแฟคั่ว

1. บรรจุภัณฑ์

เมล็ดกาแฟจะมีคุณภาพดี ไม่เสื่อมสภาพ ต้องบรรจุในถุงที่เป็นเนื้อฟรอยด์ เพราะจะช่วยป้องกันแสงแดด ความชื้น ที่เป็นปัจจัยหลัก ๆในการส่งผลให้เมล็ดกาแฟเสื่อมสภาพ และที่สำคัญคือควรสังเกตว่าตัวบรรจุภัณฑ์มีรูเล็ก ๆ หรือไม่ เพราะเนื่องจากเมล็ดกาแฟจะคายก๊าซตลอดเวลา การที่รูเล็ก ๆ บริเวณใดบริเวณหนึ่งของบรรจุภัฑ์ จะช่วยทำให้ระบายอากาศจากภายในได้ และทำให้เมล็ดกาแฟคงคุณภาพได้ยาวนานขึ้น 

2. โรงคั่วกาแฟ

การคั่วเมล็ดกาแฟไม่เพียงแต่คั่วให้เสร็จเพื่อบรรจุถุงขาย ซึ่งแต่ละโรงคั่วเมล็ดกาแฟจะมีเทคนิค มีกระบวนการผลิตที่ต่างกันออกไป ตั้งแต่ตัวเครื่องจักร การคั่วแบบฟืน การคั่วแบบใช้แก๊ส ระยะเวลาในการคั่ว ตลอดจนไปถึงการเลือกสายพันธุ์ของเมล็ดกาแฟ ดังนั้นการทำความรู้จัก ทำการศึกษาในเรื่องของโรงคั่วเมล็ดกาแฟ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ไม่ควรมองข้าม เพราะการเลือกเมล็ดกาแฟจากโรงคั่วที่มีคุณภาพ ได้รับมาตรฐาน จะช่วยให้คงคุณภาพของกาแฟได้ดี

3. อายุการผลิต

เมล็ดกาแฟคั่วจะเริ่มนับอายุการผลิตจากวันที่คั่วเสร็จ ซึ่งกาแฟที่มีคุณภาพ มีรสชาติ มีกลิ่นที่ดีที่สุด คือ 2-3 วันหลังคั่ว  และกาแฟที่ดีจะต้องมีอายุการผลิตไม่เกิน 4-6 สัปดาห์ หลังจากนั้นคุณภาพก็จะลดลงไปเรื่อย ๆ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับวิธีการเก็บรักษาที่ถูกต้องด้วย หากเป็นเมล็ดกาแฟที่คั่วบดแล้วจะยิ่งเสื่อมสภาพได้เร็วยิ่งขึ้นนั่นเอง 

Advertisements

4. ซื้อในปริมาณที่เหมาะสม

อย่างที่กล่าวมาเมล็ดกาแฟที่ดีมีคุณภาพจะมีอายุหลังการผลิตไม่นาน ดังนั้นหากต้องซื้อเมล็ดกาแฟมาทำเครื่องดื่ม แนะนำให้ซื้อในปริมาณที่เพียงพอต่อการใช้งานต่อสัปดาห์ และควรสั่งซื้อใหม่อีกครั้งในรอบต่อ ๆ ไป เพื่อให้ได้เมล็ดกาแฟที่สดใหม่ มีความหอม รสชาติเข้ม นำมาชงเครื่องดื่มแล้วให้ความอร่อยกลมกล่อม รสชาติคงที่อย่างต่อเนื่อง 

5. ระดับการคั่ว

ระดับความเข้มข้นของเมล็ดกาแฟไม่ได้มีเพียงระดับเดียว และลูกค้าที่ชอบดื่มกาแฟก็ไม่ได้ชอบรสชาติ ความเข้มของกาแฟที่เหมือนกัน ฉะนั้นแล้วทางร้านควรมีระดับการคั่วของเมล็ดกาแฟให้ลูกค้าได้เลือกดื่มกันตามใจชอบ ทั้ง คั่วอ่อน คั่วกลาง คั่วเข้ม ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการช่วยดึงดูดลูกค้าเข้าร้าน 

เพราะเมล็ดกาแฟ คือ หัวใจหลักของเมนูกาแฟทุกแก้ว ดังนั้นควรตัดสินใจเลือกใช้เมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพเพื่อให้ได้รสชาติที่ดี ด้วยหลักการเลือกซื้อง่าย ๆ ทั้ง 5 ข้อที่เรานำมาฝากกัน และเพื่อยืดอายุกาแฟให้อยู่ได้นานยิ่งขึ้น ก็ควรคำนึงถึงปัจจัยหลักอย่าง อากาศ ความชื้น แสงแดด ความร้อน เพราะทั้ง 4 ปัจจัยที่กล่าวมานี้ถือเป็นตัวกระตุ้นให้กลิ่นหอมและ รสชาติของกาแฟเปลี่ยนไปนั่นเอง 

เมล็ดกาแฟคั่ว

เมื่อรู้วิธีเลือกซื้อเมล็ดกาแฟคุณภาพแล้ว ก็ต้องไม่ลืมที่จะทำการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการชงเมนูกาแฟ เช่น เครื่องบดกาแฟมือหมุน
เครื่องบดกาแฟไฟฟ้า เครื่องชั่งดิจิตอล เครื่องตีฟองนม โหลเก็บเมล็ดกาแฟ ตลอดจนไปถึงเป็นต้นใครที่อยากได้สูตรชงเมนูกาแฟยอดฮิต อย่าง มอคค่า ลาเต้ ก็คลิกดูได้เลย ถือว่าเป็นเมนูขายดีลูกค้าสั่งกันมากที่สุด หรือนับว่าเป็นเมนูที่ทุกร้านกาแฟต้องมีเลยก็ว่าได้ 

Advertisements

และนอกจากนี้ทางเราก็ยังจะมีสูตรชงเมนูเครื่องดื่มอื่น ๆ ทั้ง ชาผลไม้ เมนูชาดอกมะลิ เมนูชาอัญชัน เมนูชาไทย เมนูชาเขียว หรือเมนูสุดอร่อยอย่าง นมเปรี้ยวปีโป้ปั่น โกโก้ปั่นภูเขาไฟ เรนโบว์ป๊อปคอร์น เป็นต้น และสำหรับใครที่อยากจะเพิ่มเมนูเครื่องดื่มใหม่ ๆ ก็สามารถเลือกใช้ใบชาของโรงคั่วชา bluemocha กันได้เลยเพราะมีให้เลือกใช้กันมากกว่า 30 รายการ
ไม่ว่าจะเป็นใบชาเขียว ใบชาแดง ใบชาไต้หวัน ชาดอกกุหลาบ ชาดอกมะลิ ผงโกโก้ ผงมัทฉะ และอื่น ๆ อีกมากมาย

ตลอดจนไปถึงเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับการชงชาแบบลิตร การต้มชาให้หอม การทำท็อปปิ้งเครื่องดื่มต่าง ๆ ทางเราก็มีมาแบ่งปันเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น การทำกาแฟโบราณ 3 ลิตร
การชงชา 4 ลิตร การทำโกโก้ผสม 2 ลิตร บอกเลยว่าสามารถนำไปทำตาม ทำขายใส่ขวดก็ได้ง่ายมาก ๆ หรือจะเพิ่มยอดขายด้วยการทำเมนูอื่น ๆ ก็ได้ เช่น การทำเต้าฮวย
การทำสังขยา การทำขนมจากเมนูโกโก้ ขนมจากเมนูชาเขียว เป็นต้น ใครที่อยากจะได้สูตร เทคนิคต่าง ๆ ก็สามารถกดดูบทความเพิ่มเติมของเราได้เลย

สินค้าอื่นๆ

Similar Posts