เทคนิคการเลือกเครื่องทำน้ำแข็ง พร้อมเหตุผลที่ร้านเครื่องดื่มควรมีไว้ใช้

เครื่องทำน้ำแข็ง อีกหนึ่งอุปกรณ์ที่เหมาะกับร้านชา ร้านกาแฟ ไม่ว่าร้านของคุณจะเป็นร้านขนาดเล็ก หรือร้านขนาดใหญ่ ก็สามารถมีเครื่องทำน้ำแข็งไว้ที่ร้านได้ เพราะมีให้เลือกใช้หลายขนาด และมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่นบาท

เพราะ น้ำแข็ง คือวัตถุดิบสำคัญในการทำเครื่องดื่มเมนูเย็น จึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม เคยไหม ? สั่งน้ำแข็งจากร้านแล้วมักเจอน้ำแข็งที่มีเศษเล็กเศษน้อยปะปนมา ไม่ค่อยมีความสะอาด ไม่ได้มาตรฐาน แต่เมื่อมีเครื่องทำน้ำแข็งไว้ที่ร้าน คุณสามารถที่จะควบคุมการผลิตน้ำแข็งได้ แล้วจะได้น้ำแข็งที่สะอาด ได้มาตรฐาน แถมยังได้ส่งมอบสิ่งดี ๆ ให้กับลูกค้า

แล้วทำไมร้านเครื่องดื่มควรมี เครื่องทำน้ำแข็ง

– ความสะอาด ปลอดภัย

การมีเครื่องทำน้ำแข็งในร้าน จะช่วยให้สามารถควบคุมการทำน้ำแข็งได้ และถือเป็นการรักษามาตรฐานของร้าน ทั้งในเรื่องของความสะอาด ความปลอดภัย เพราะการสั่งน้ำแข็งจากร้าน เราจะไม่ทราบถึงขั้นตอนการผลิต ไม่ทราบถึงกระบวนการขนส่ง

– สะดวกต่อการใช้งาน

แน่นอนอยู่แล้วว่าหากมีเครื่องทำน้ำแข็งไว้ที่ร้านนั้น มันทำให้สะดวกต่อการนำไปใช้งานได้อย่างดี เพราะสามารถผลิตน้ำแข็งในเวลาไหนก็ได้ หรือหากน้ำแข็งที่มีอยู่ใกล้จะหมดก็สามารถผลิตน้ำแข็งในเวลานั้น ๆ ได้เลย จะทำให้ลูกค้าไม่ต้องรอนาน โดยไม่ต้องโทรสั่งและรอจนกว่าร้านน้ำแข็งจะมาส่ง 

– ลดต้นทุน

เคยคำนวณไหมว่าใน 1 วัน หรือ 1 เดือน ร้านกาแฟ ร้านชา ของคุณเสียค่าต้นทุนน้ำแข็งกี่บาท โดยปกติแล้วน้ำแข็งหนึ่งกระสอบ จะตกอยู่ที่ประมาณ 20-25 กิโลกรัม ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 50-60 บาทแล้วแต่พื้นที่ และถ้าสั่งวันละ 2 กระสอบ ก็จะตกค่าต้นทุนเฉพาะน้ำแข็งวันละ 100 บาท ใน 1 เดือนก็จะอยู่ที่ 3,000 บาทขึ้นไป  หรือเกือบ 40,000 บาทต่อปีเลยทีเดียว

ดังนั้น เครื่องผลิตน้ำแข็งถือเป็นตัวเลือกอีกทางสำหรับร้านที่ขายเครื่องดื่ม และมีตัวเลือกให้ใช้หลากหลาย เริ่มต้นราคาหลักพันไปจนถึงหลักหมื่น แล้วแต่ขนาด และฟังก์ชันในการใช้งานต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่น เปิดร้านกาแฟ แล้วมีลูกค้าเข้าร้านไม่ถึง 10 คนในหนึ่งชั่วโมง ก็เหมาะที่จะเลือกใช้เครื่องผลิตน้ำแข็งที่กำลังไม่มาก แค่พอเหมาะกับการใช้งาน สมมติราคาอยู่ที่ 20,000  บาท มีกำลังผลิตได้วันละ 50 กิโลกรัม (เทียบกับน้ำแข็ง 2 กระสอบ) เมื่อบวกลบค่าน้ำค่าไฟแล้ว ก็จะอยู่ที่ประมาณวันละ  70-80  บาท 

หากดูเป็นรายวันจะดูว่ามีต้นทุนที่ค่อนข้างสูงเกือบ 100 บาทต่อวัน แต่เมื่อรวมรายปีแล้วจะตกอยู่ที่ 25,000-26,000 บาท รวม ๆ แล้วจะถือว่าเป็นการลดต้นทุนภายในร้าน แถมยังได้น้ำแข็งตามที่ต้องการ มีมาตรฐานปลอดภัย

เทคนิคการเลือกเครื่องทำน้ำแข็ง

– เลือกประเภทของน้ำแข็ง

อย่างที่หลาย ๆ คนรู้  น้ำแข็งมีหลายประเภท และน้ำแข็งแต่ละประเภทก็ไม่ได้เหมาะกับเครื่องดื่มทุกชนิด และถ้าหากการเปิดร้านกาแฟ ร้านชา น้ำแข็งที่ใช้ก็ควรเป็นน้ำแข็งก้อนเล็ก หรือน้ำแข็งบดหยาบ ดังนั้นก็ควรเลือกซื้อเครื่องทำน้ำแข็งที่ผลิตน้ำแข็งก่อนเล็ก ตรงกับการใช้งาน

– ความสามารถในการผลิต 

การจะเลือกซื้อเครื่องทำน้ำแข็ง ต้องอย่าลืมคำนึงถึงความสามารถในการผลิต แม้ว่าเครื่องทำน้ำแข็งจะผลิตน้ำแข็งได้เหมือนกันก็จริง แต่ความสามารถในการผลิตอย่างปริมาณ ความจุ ระยะเวลาในการผลิต ย่อมต่างกัน

ฉะนั้น หากร้านของคุณมีลูกค้าเข้าร้านไม่มากต่อหนึ่งชั่วโมง ก็ควรเลือกซื้อเครื่องที่มีความสามารถในการผลิตต่ำได้ เพราะการซื้อเครื่องที่มีกำลังผลิตที่มาก อาจจะทำให้เสียต้นทุนเพิ่มขึ้น และใช้งานไม่คุ้มค่านั่นเอง แต่ถ้าร้านของคุณเป็นคาเฟ่ขนาดใหญ่ ที่มีลูกค้าเข้าเข้าร้านแบบกลุ่มใหญ่ หรือจำนวนมากในหนึ่งชั่วโมง ก็ควรเลือกซื้อเครื่องที่มีกำลังผลิตมาก ๆ ผลิตได้ไว เพื่อให้มีน้ำแข็งพร้อมใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง การเลือกซื้อเครื่องทำน้ำแข็งควรเลือกซื้อให้ตอบโจทย์กับร้านของคุณ 

– ขนาดน้ำแข็ง

ส่วนใหญ่แล้วหลายคน ๆ มักจะมองข้ามเรื่องของขนาดน้ำแข็ง เพราะคิดว่าน้ำแข็งจะมีขนาดที่เท่ากัน และแน่นอนอยู่แล้วว่าเครื่องทำน้ำแข็งไม่ได้สร้างก้อนน้ำแข็งที่มีขนาดเท่ากันในทุก ๆ เครื่อง  

แต่ทั้งนี้เครื่องทำน้ำแข็งบางเครื่องนั้นก็สามารถผลิตน้ำแข็งได้หลายขนาด ดังนั้นควรคำนึงถึงขนาดน้ำแข็งที่จะใช้ ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ หากร้านคุณใช้น้ำแข็งแค่ขนาดเดียวก็ไม่จำเป็นต้องซื้อเครื่องที่ผลิตได้หลายขนาดนั่นเอง

  – ระยะเวลาในการผลิต

เครื่องทำน้ำแข็งทุกเครื่องใช้ระยะเวลาในการผลิตน้ำแข็งไม่เท่ากัน ! บางเครื่องใช้เวลาในการผลิตไม่ถึง 10 นาที แต่กับบางเครื่องใช้เวลานาน 20 นาที ดังนั้นหากร้านของคุณต้องใช้น้ำแข็งจำนวนมาก ก็ควรเลือกเครื่องผลิตน้ำแข็งที่ใช้เวลาน้อยในการผลิต 

– บริการหลังการขาย

นอกจากการพิจารณาปัจจัยหลัก ๆ ในการเลือกซื้อเครื่องทำน้ำแข็งแล้ว อีกหนึ่งปัจจัยก็คือการบริการหลังการขาย เพราะเครื่องทำน้ำแข็งเป็นอุปกรณ์ที่ไม่ได้มีขายตามร้านค้าสะดวกซื้อทั่วไป และถือเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งต้องมีการดูแลรักษา ตรวจเช็คสภาพอยู่เป็นประจำ ดังนั้นก่อนเลือกซื้อต้องสอบถามเกี่ยวกับบริการหลังการขาย ว่ารับประกันกี่ปี หากชำรุดอะไหล่หาซื้อได้ง่ายไหม หรือถ้าต้องซ้อมเครื่องนานมีเครื่องสำรองให้ใช้ก่อนหรือไม่

– การใช้งานไม่ซับซ้อน

อีกหนึ่งอย่างที่ไม่ควรมองข้ามในการเลือกซื้อเครื่องทำน้ำแข็ง คือการใช้งานที่ไม่ต้องมีขั้นตอนที่ซับซ้อน ควรเลือกใช้เครื่องที่ทำงานง่าย มีปุ่มเปิด/ปิด มีปุ่มเลือกฟังก์ชันที่ง่าย และผลิตน้ำแข็งออกมาได้ง่าย แถมช่วยประหยัดเวลา

– รูปแบบและสไตล์

รูปแบบ สไตล์ ต้องเข้ากับร้าน สำหรับข้อนี้อาจจะเป็นตัวเลือกสุดท้ายในการเลือกซื้อเครื่องทำน้ำแข็ง แต่ก็ถือว่ามีความสำคัญเช่นกัน เพราะควรเลือกซื้อในสไตล์ที่คุณชอบ และนำมาวางในร้านแล้วไม่ดูรก ไม่เกะกะ แต่สามารถเข้ากับร้านของคุณได้ดี สร้างภาพลักษณ์ให้ร้านได้

เป็นยังไงกันบ้าง ? กับเทคนิคเลือกเครื่องทำน้ำแข็ง และเหตุผลที่ร้านชา ร้านกาแฟควรมีเครื่องทำน้ำแข็ง เพราะคุณจะได้น้ำแข็งตามที่คุณต้องการ และสามารถผลิตน้ำแข็งได้ตามสะดวก แถมยังช่วยลดต้นทุนได้อีกเยอะ แต่ถ้ามีน้ำแข็งที่สะอาดปลอดภัย ก็ต้องอย่าลืมเลือกใบชาคุณภาพ เพื่อรังสรรค์เมนูเครื่องดื่มให้ลูกค้าได้เลือกดื่มตามใจชอบ น้ำชากลิ่นหอม ๆ เข้มข้น บวกกับน้ำแข็งที่สะอาดปลอดภัย บอกเลยว่าเป็นเครื่องดื่มที่ดีที่สุดและส่งต่อให้ลูกค้าได้อย่างมั่นใจ

หากอยากได้ใบชาคุณภาพดี กลิ่นหอม เข้มข้น ต้องเลือกใช้ใบชาของโรงคั่วชา bluemocha ที่มีให้เลือกใช้มากกว่า 40 รายการ นอกจากนี้เราก็ยังมีสูตรชงเครื่องดื่มอีกมากมายให้นำไปใช้เป็นเมนูเพิ่มเติมของร้านได้เลย แต่ชาจะอร่อยกลมกล่อมต้องใช้ใบชา bluemocha เท่านั้น

แต่ถ้าไม่อยากพลาดสูตรชง หรือเคล็ดลับเกี่ยวกับการชงชา เคล็ดลับดี ๆ ก่อนใคร ต้องอย่าลืมกดติดตามเฟซบุ๊กเพจ โรงคั่วกาแฟ ผงชาเขียว ผงชาไทย ผงชาไต้หวัน Bluemocha เชียงใหม่

สินค้าอื่นๆ