ชาอัสสัม

ชาอัสสัม VS ชาอู่หลง ชาเขียว ชาแดง ชาดำ ต่างกันยังไง ?


ชาอัสสัม คืออะไร ? ชาอู่หลง คืออะไร ? ข้อสงสัยที่ใครหลายคนอยากรู้ รวมไปถึง ตัวชาดำ ชาซีลอน ชาเขียว ชาแดง ต่าง ๆ เหมือนหรือต่างกันอย่างไรบ้าง ?
วันนี้ bluemocha เราจะมาไขข้อข้องใจให้กันเอง สำหรับชาเขียว ชาอู่หลง ชาดำหรือชาอื่น ๆ ที่เรานิยมเรียกกันนี้ ต้องบอกก่อนว่ามาจากใบชาประเภทเดียวกัน แต่ต่างกันตรงที่กระบวนการผลิตนั่นเอง โดยขั้นตอนการผลิตใบชา นั้นจะมีทั้งการหมัก การผึ่งแดด การนวด การคั่ว รวมไปถึงการอบไอน้ำ จึงทำใบชาแต่ละชนิดนั้นมีกลิ่น มีรสชาติที่ไม่เหมือนกัน 

Advertisements

ซึ่งใบชาหรือผงชา ที่นิยมนำมาใช้ชงดื่มนี้ ส่วนใหญ่จะมาจาก 2 สายพันธุ์ คือ
1. ชาสายพันธุ์จีน
นิยมปลูกแบบการเกษตรที่เป็นระบบ เพราะต้องใส่ใจในการปลูกเป็นพิเศษ จะมีใบลักษณะเล็ก แต่ทนทานต่อสภาพอากาศหนาวเย็นได้ดีกว่าชาอัสสัม และนิยมนำมา
ทดลองผสมพันธุ์ชาจากแหล่งต่าง ๆ เข้าด้วยกัน
2. ชาสายพันธุ์อัสสัม หรือบางคนเรียกว่า ชาป่า, ชาอัสสัม ซึ่งมีแหล่งกำเนิดมาจากประเทศอินเดีย จะมีลักษณะใบชาที่ใหญ่ เจริญเติบโต และทนต่อสภาพอากาศได้ดี ปลูกได้หลายพื้นที่ ดูแลง่ายตามธรรมชาติจึงทำให้มีผลผลิตที่เยอะ และราคาค่อนข้างถูก 

ทำความเข้าใจง่าย ๆ ก็คือ น้ำชาที่ดื่มกันนี้คือมาจากใบชาจีนและใบชาอัสสัม ที่นับว่าอยู่ในท้องตลาดทั่วโลก แต่สำหรับชาเขียว ชาอู่หลง ชาดำ ชาแดง ที่คุ้นเคยกันนั้น ไม่ใช่สายพันธุ์ชา แต่เป็นการแบ่งประเภทชา จากการนำใบชามาผ่านกระบวนการผลิตที่ต่างกัน ให้รสชาติ กลิ่นหอมที่ต่างกันออกไปด้วย แต่โดยส่วนใหญ่แล้วเมื่อจัดแบ่งประเภทชาตามระดับของการหมักนั้น จะทำให้แบ่งได้ 3 ประเภทชาหลัก ๆ ก็คือ ชาเขียว (Green Tea) ชาอู่หลง (Oolong Tea) และชาดำ (Black Tea) และทั้ง 3 ประเภทนี้มีกระบวนการผลิตต่างกันยังไง ลองมาดูกันเลย 

อ่านเพิ่มเติม

กระบวนการผลิต ชาเขียว ชาอู่หลง ชาดำ 

  • ชาที่ไม่ผ่านการหมักชา หรือชาเชียว (Non-fermented tea)
ชาอัสสัม

ใบชาที่ไม่มีขั้นตอนการหมักในระหว่างกระบวนการผลิต โดยเมื่อได้ใบชามาแล้ว จะนำมาผ่านการอบไอน้ำที่อุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 0.7 นาที  หรือการคั่วในกระทะร้อนที่อุณหภูมิสูง 300-350 องศาเซลเซียส เมื่อผ่านขั้นตอนการให้ความร้อนแล้วก็จะต้องนำใบชาที่ได้ไปนวดชา เพื่อให้เซลล์แตก และเกิดการม้วนตัวของใบชา แล้วนำไปอบแห้งด้วยความร้อนอีกครั้ง เท่านี้ก็จะได้ชาเขียวแล้ว เมื่อนำมาชงแล้วจะให้รสชาติที่ดื่มง่าย และได้น้ำชาสีเหลืองอมเขียว 

Advertisements
  • ชาที่ผ่านการหมัก 10-80% หรือชาอู่หลง  (Semi-fermented tea)
ชาอัสสัม

ใบชาที่มีการหมักในระหว่างการผลิตบางส่วน ซึ่งจะมีขั้นตอนเพิ่มขึ้นจากชาเขียว เมื่อได้ใบชาสดมาแล้วนั้น จะต้องนำมาผึ่งแดด 20-40 นาที ทำให้อุณหภูมิของใบชาสูงขึ้นและเกิดการคายน้ำออกมาก แล้วให้นำไปผึ่งในร่มต่ออีกครั้ง เพื่อควบคุมอุณหภูมิและความชื้นอย่างเหมาะสม พร้อมกับเขย่าใบชาให้เกิดปฏิกิริยา หรือทำให้ใบชาเกิดการตื่นตัว เพื่อช่วยเร่งในการหมัก จากนั้นให้นำใบชาที่ได้ไปคั่วผ่านความร้อนเพื่อยุติการบ่มชา แล้วนำชามานวดต่อเพื่อขึ้นเกิดการม้วนตัวเป็นก้อน ๆ และให้นำไปอบแห้งลดความชื้นอีกครั้ง เท่านี้ก็จะได้ชาอู่หลง เมื่อนำมาสกัดแล้วจะได้น้ำชาสีเหลืองอมน้ำตาล มีรสชาติที่เข้มข้น มีรสฝาดเล็กน้อย    

  • ชาที่ผ่านการหมัก 100% หรือชาดำ (Completely-fermented tea)
ชาอัสสัม

ใบชาที่ผ่านการหมักอย่างสมบูรณ์ โดยเริ่มจากการนำใบชาที่ได้ใบผึ่งให้แห้งเพื่อลดความชื้น แล้วนำใบชามานวดจนช้ำ เพื่อช่วยให้การหมักง่ายขึ้น   นำไปหมักหรือบ่มต่อเพื่อให้ใบชาเกิดปฏิกิริยาอย่างเต็มที่ และนำไปผ่านความร้อนอบจนใบชาแห้ง  ซึ่งจะทำให้ใบชาเปลี่ยนสีเป็นสีน้ำตาลเข้มเกือบดำ จึงเรียกว่าชาดำ เมื่อนำมาสกัดแล้วจะทำให้ได้รสชาติชาที่เข้มกว่าชาชนิดอื่น ๆ และมีปริมาณคาเฟอีนสูง  

เป็นยังไงกันบ้างกับประเภทชาหลัก ๆ ที่แบ่งตามกระบวนการผลิต อย่าง ชาเขียว ชาอู่หลง ชาดำ ซึ่งแต่ละประเภทใบชานั้น ก็จะให้ลักษณะใบชา สีใบชา สีน้ำชาที่สกัดออกมา รวมถึงรสชาติความเข้มข้นต่างกันออกไปนั่นเอง ซึ่งใบชาทั้ง 3 ประเภทนี้ก็จะถูกนำมาผลิตเป็นชาอื่น ๆ ต่อด้วยการนำไปผสมชาหรือสารปรุงแต่งอื่น ๆ เพิ่มหรือลดขั้นตอนการผลิตบางส่วนออกไป 

Advertisements

อย่าง “ชาแดง” อีกหนึ่งใบชาที่หลาย ๆ คนคุ้นเคย นิยมเลือกชงดื่มชงขายกันนั้น ก็มาจากชาดำ แต่จะมีระยะเวลาในการบ่มที่น้อยกว่า จึงทำให้ได้ใบชาออกสีแดงนำมาสกัดน้ำชาก็จะได้สีออกน้ำตาลแดง ไม่เข้มเท่าชาดำ สำหรับชาแดงหรือชาไทย ที่คนไทยเรานิยมดื่มนั้น ก็มาจากชาแดงแต่มีการแต่งกลิ่น เพื่อเพิ่มอรรถรสในการดื่ม ให้กลิ่นและความหอมที่เป็นเอกลักษณ์มากยิ่งขึ้น   

สรุปแล้วชาอู่หลง กับ ชาอัสสัม ต่างกันยังไง 

ชาอัสสัม (Assam Tea) คือ ใบชาสดที่เป็นสายพันธุ์ชาที่นิยมนำมาทำเครื่องดื่ม แล้วนำมาผ่านกระบวนการผลิตที่ไม่ผ่านการหมัก เพียงแต่นำมาผ่านความร้อนด้วยการอบไอน้ำหรือการคั่วชา นำมานวดและอบแห้งต่อ จนได้ใบชาอบแห้ง หรือใบชาหลัก ที่มีกลิ่นหอมของชาแท้ ๆ ได้รสชาติของชาอ่อน ๆ ในการนำไปผลิตเป็นชาประเภทอื่น ๆ ต่อนั่นเอง 
ชาอู่หลง (Oolong Tea) คือ ใบชาสดที่นิยมเลือกใช้สายพันธุ์ชาจีน มาผ่านกรรมวิธีการผลิตที่ต่างออกไป จะมีขั้นตอนการผึ่งแดด การหมักเพิ่มเข้ามา และนำมาผ่านความร้อนด้วยการอบไอน้ำหรือการคั่วชา แล้วนำมานวดและอบแห้งต่อ ซึ่งจะได้สีใบชาที่เข้มขึ้น มีสีน้ำชาที่ออกเหลืองเข้ม ได้รสชาติของชาที่เข้มข้น  

นอกจากชาเขียว ชาอู่หลง ชาดำ ก็ยังมีชาผสม หรือชาที่เบลน (Blend Tea) อื่น ๆ อีกมากมาย โดยจะเป็นการนำชาทั้ง 3 ประเภท ไปผสมกับชาหรือส่วนผสมอื่น ๆ อย่างดอกไม้แห้ง ชากุหลาบ ชาอัญชัน ชามะลิ ผลไม้อบแห้ง ชาพีช ชาเบอร์รี่ เป็นต้น เพื่อชูรสชาติของชาให้มีกลิ่นหอม อร่อยกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น 

สำหรับใครที่ต้องการใบชา ในการนำมารังสรรค์เป็นเมนูเครื่องดื่มในร้านก็สามารถเลือกใช้ผงชาสำเร็จรูปหรือเมล็ดกาแฟ ของโรงคั่วชาเชียงใหม่ ชานกฮูก ที่คัดสรรเอาแต่ใบชาคุณภาพดี นำมาผ่านการผลิตในโรงงานที่รับมาตรฐาน แถมยังมีสินค้าวัตถุดิบร้านชากาแฟให้เลือกใช้กันมากกว่า 40 รายการ ทั้ง ผงชาเขียว ผงชาแดง ผงชานมไต้หวัน ผงโกโก้ ผงมัทฉะ รวมไปถึงชาสด ชาสำหรับชงชาผลไม้ กาแฟโบราณ กาแฟสด และสินค้าอื่น ๆ อีกมากมาย เนื่องจากผลิตในโรงงานที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน แถมยังมีสินค้าผงชากาแฟให้ได้เลือกสรรกันเยอะมาก ร้านชาไข่มุก ร้านกาแฟ หรือแฟรนไชส์ต่าง ๆ จึงเลือกใช้ สำหรับใครที่อต้องการอยากจะมีแบรนด์สินค้าเป็นของตัวเอง สนใจอยากผลิตชาOEM&ODM อยากเริ่มต้นทำแฟรนไชส์ชานมไข่มุก ก็สามารถมาปรึกษากันได้เลย พร้อมรับสิทธิพิเศษต่าง ๆ มากมาย  

สินค้าอื่นๆ

Similar Posts