เลือกชนิดแก้วใส่เครื่องดื่มให้เหมาะร้านของคุณ

ชนิดแก้ว มีความสำคัญในการเลือกใช้คุณรู้หรือไหม ? หากใครที่กำลังวางแผนจะเปิดร้านกาแฟ หรือแม้แต่การเปิดร้านกาแฟแล้วก็ไม่ควรมองข้ามเรื่องแก้ว ควรที่จะเลือกชนิดแก้วให้เหมาะสมกับเครื่องดื่มแต่ละประเภท

6 ชนิดแก้ว ที่ร้านเครื่องดื่มควรรู้

1. แก้ว PET หรือ แก้ว PETE

แก้วพลาสติกประเภทนี้ ผลิตมาจาก Polyethylene terephthalate (พอลิเอทิลีน เทเรฟทาเลต) จะมีลักษณะโปร่งใสคล้ายขวดแก้ว ไม่มีความขุ่น และเป็นแก้วเนื้อแข็ง มีความหนา ไม่แตกง่าย ไม่บุบ ทั้งยังจับถนัดมือ ทรงสวย แถมยังเก็บรักษาความเย็นได้นาน และทำให้เครื่องดื่มเสียรสชาติได้ ร้านกาแฟจึงนิยมใช้กันมาก แต่จะมีราคาที่สูงกว่าแก้วชนิด PP และชนิด GPPS โดยจะมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 2 – 3.2 บาทต่อแก้ว 1 ใบ

2. แก้ว PP

แก้วชนิดนี้ทำจากพลาสติก PP หรือ Polypropylene (พอลิโพรไพลีน) จะมีลักษณะนิ่ม มีความบาง แต่ก็มีเนื้อแก้วที่เหนียว ไม่แตกหักง่าย และมีเนื้อแก้วใส สามารถจับถัดมือ ที่สำคัญราคาถูก ทนทานต่อการขีดข่วน ไม่เสียรูปง่าย และมีความขุ่น ความแข็งแรง พร้อมทั้งทนต่อความร้อนได้ดีกว่าแก้วประเภท PET ถือเป็นแก้วอีกหนึ่งชนิดที่ร้านเครื่องดื่มทั่วไปนิยมใช้กันอย่างมาก และมีราคาที่ถูกจับต้องได้อยู่ที่ประมาณ 0.7-1.9 บาทต่อแก้ว 1 ใบ

3. แก้ว PP แข็ง หรือ แก้ว Rigid PP

เป็นแก้วที่ทำมาจากพลาสติก PP ซึ่งมีความแข็งแรง มีเนื้อสีขุ่น ขาว ทั้งยังมีความหนา และแข็งแรง ทนทานต่อการขีดข่วนกว่าแก้ว PP รวมถึงตัวแก้วมีความหนา สามารถที่จะทนต่อความร้อนและเก็บความเย็นของเครื่องดื่มไว้ได้นาน นำไปรีไซเคิลได้ง่ายอีกด้วย โดยทั่วไปแล้วก็จะมีรูปทรงเรียบ ๆ ดูดี แก้วมีความหนา แถมยังจับถนัดมืออีกด้วย แต่อาจมีข้อเสียที่มีราคาค่อนข้างสูง เฉลี่ยอยู่ที่ 3-4 บาทต่อแก้ว 1 ใบ

4. แก้ว GPPS หรือ แก้ว PS

แก้วชนิดนี้ทำมาจาก General Purpose Polystyrene โดยเนื้อแก้วจะมีความใสมากที่สุด ไม่บุบง่าย แต่มีความเปราะมาก เมื่อบีบหรือโดนกระทบแรง ๆ อาจทำให้แก้วแตกได้ง่าย และด้วยความใสชัดเจนจึงทำให้เห็นสีของเครื่องดื่มที่โดดเด่น น่าลิ้มลอง รวมถึงยังสามารถนำไปรีไซเคิลได้ ย่อยสลายได้ถึง 100% ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ราคาเฉลี่ยตามท้องตลาดอยู่ที่ 2-3.3 บาทต่อแก้ว 1 ใบ

5. แก้วกระดาษ หรือ แก้ว Double Wall

แก้วใส่เครื่องดื่มร้อนที่หลาย ๆ คนคุ้นเคย ผลิตมาจากเยื่อกระดาษเนื้อไม้ธรรมชาติผนังสองชั้น และผ่านการเคลือบพลาสติกประเภท PE : Polyethylene (พอลิเอทิลีน) หรือบางผู้ผลิตจะใช้พลาสติกชีวภาพในการเคลือบแก้วเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม ป้องกันไม่ให้น้ำซึมออกได้ง่าย และป้องกันความชื้นจากภายนอก รวมถึงไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม เพราะทนทานต่อความร้อนได้ดี จึงเหมาะที่จะนำมาใส่เครื่องดื่มร้อน และมักพบเห็นตามร้านเครื่องดื่มได้ทั่วไป แถมมีขนาดเล็กหว่าแก้วชนิดอื่น ๆ แต่มีรูปทรงที่จับถนัดมือ และมีลวดลายให้เลือกมากมาย ราคาเฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่ 0.8-1.8 บาทต่อ 1 ใบ

6. แก้ว BIO

แก้วไบโอ เป็นแก้วรักษ์โลก เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ที่ผลิตมาจากพลาสติก PLA หรือ Polylactic Acid ซึ่งเป็นพลาสติกที่ย่อยสลายได้ ซึ่งทำมาจากวัตถุดิบชีวภาพอย่าง ข้าวโพด ธัญพืช โดยสามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ 100% ใน 5-10 ปี หรือรีไซเคิลได้ง่ายกว่าชนิดอื่น ๆ อีกด้วย ซึ่งตัวแก้วจะมีความแข็ง หนา สีใส มีลักษณะเหมือนแก้วพลาสติก PET ด้วยความที่เป็นชนิดแก้วที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม จึงทำให้มีราคาที่ค่อนข้างสูงกว่าแก้วชนิดอื่น ๆ โดยราคาประมาณ 2 – 4 บาท ต่อแก้ว 1 ใบ แม้ราคาจะค่อนข้างสูงแต่หลาย ๆ ร้านเครื่องดื่มก็นิยมใช้ เพราะจะเป็นการรักษาสิ่งแวดล้อมได้อีกทางด้วย

แต่ทั้งนี้การเลือกแก้วที่ใช่สำหรับร้านคุณได้แล้ว ต้องอย่าลืมมองข้ามวัตถุดิบหลักอย่างใบชา เพราะใบชาคุณภาพดี ที่มีกลิ่นหอม ให้ความเข้มข้น จะช่วยชูให้เครื่องดื่มร้านคุณมีความอร่อย กลอมกล่อม ไม่มีรสชาติที่ผิดเพี้ยน และ bluemocha เราก็มีใบชาให้เลือกใช้มากกว่า 30 รายการ เหมาะสำหรับร้านที่อยากมีเมนูเครื่องดื่มใหม่ ๆ เพื่อเป็นตัวเลือกเอาใจลูกค้าและเรายังมีสูตรชงเครื่องดื่มอื่น ๆ บทความดี ๆ เกี่ยวกับร้านชาไข่มุก ร้านกาแฟ อีกเพียบ

นอกจากนี้ทางเรายังรับผลิตชา OEM อีกด้วย เพื่อเป็นทางเลือกของคนที่อยากมีแบรนด์ชาเป็นของตนเอง สามารถปรึกษา สอบถามรายละเอียดต่าง ๆ ได้เลย รวมถึงใครที่ผลิตชากับเรา จะยังได้รับบริการฟรีอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบโลโก้ ขออย. เป็นต้น

สอบถามเพิ่มเติม