ไข่มุกใส่เครื่องดื่ม 10 ชนิด ท็อปปิ้งชานมไข่มุกที่ลูกค้าชอบมาก
ไข่มุกใส่เครื่องดื่ม ท็อปปิ้งไข่มุก ที่ทุกร้านชานมไข่มุกคาเฟ่ต่าง ๆ ต้องมีติดร้าน เพราะการมีท็อปปปิ้งเครื่องดื่มอย่างไข่มุกหลากชนิดให้ลูกค้าได้เลือกตามใจชอบ หรือแม้แต่จะมีเพียง 1-2 ชนิดภายในร้าน ก็ช่วยให้ลูกค้าประทับใจได้แล้ว และที่สำคัญยังเป็นชื่นชอบของลูกค้าทุกเพศทุกวัย ไม่ใช่แค่ลูกค้าวัยเด็กเท่านั้น อีกหนึ่งวิธีเอาใจลูกค้าง่าย ๆ แบบนี้ก็ทำได้แล้ว
ยิ่งในปัจจุบันนี้คู่แข่งอย่างร้านชานมไข่มุก คาเฟ่ขนาดเล็ก ไปจนถึงขนาดใหญ่นั้นมีเยอะมาก การเอาใจลูกค้าจึงเป็นสิ่งที่ทุกร้านหรือมือใหม่อยากเปิดร้านไม่ควรมองข้าม เพราะกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาซื้อเครื่องดื่มนั่นคือยอดขายที่ทุกร้านจะได้รับ รวมไปถึงกำไรที่ต้องได้ การชูจุดขายที่แปลกใหม่ เอาใจลูกค้าด้วยโปรโมชั่นร้านกาแฟ ดึงดูดความสนใจของลูกค้าด้วย
ท็อปปิ้งเครื่องดื่มที่หลากหลาย ก็อาจจะช่วยให้ร้านมีลูกค้าเข้าร้านอย่างต่อเนื่องได้ดี
สารบัญ
10 ท็อปปิ้งไข่มุก ไข่มุกใส่เครื่องดื่ม
1. ไข่มุก

2. ไข่มุกป๊อป

3. มุกบุก

4. เยลลี่ฟรุตสลัดผลไม้

5. ไข่มุกบราวน์ชูการ์

6. วุ้นคาราเมล

7. สโนว์มุก

8. ฟรุตสลัดมุก 3 สี

9. ฟรุตสลัดมุกแพนด้า

10. วุ้นน้ำผึ้ง

แค่มีท็อปปิ้งอย่าง 10 ชนิด ไข่มุกใส่เครื่องดื่ม ที่เรานำมาแชร์กันในวันนี้ก็สามารถเอาใจลูกค้าได้แล้ว หรือจะหาท็อปปิ้งเครื่องดื่มอื่น ๆ มาเพิ่มเป็นตัวเลือกให้กับลูกค้าก็ได้ เพราะจริง ๆ การมีท็อปปิ้งเยอะก็นับว่าเป็นจุดขายที่ดีของหลายร้านเช่นกัน เช่น การมีวิปครีม มีขนมแท่ง ปีโป้ ซอสท็อปปิ้ง ซีเรียล หรืออื่น ๆ ไม่เพียงเท่านี้หลาย ๆ ร้านก็ยังได้ยอดขายที่เพิ่มขึ้นจากการให้ลูกค้าเพิ่มท็อปปิ้งได้มากกว่าที่ร้านกำหนด ด้วยการเพิ่มเงินในราคาที่ทางร้านตั้งไว้นั่นเอง
อ่านเพิ่มเติม
- วิธีทำชาทูโทน ชาแยกชั้น เทยังไงให้สีสวยไม่ไหลรวมกัน
- ทำน้ำเชื่อมใส่กาแฟง่าย ๆ วิธีทำน้ำเชื่อมใบเตย น้ำเชื่อมโซดา
- แจกฟรี 10 สูตรน้ำปั่น อร่อยสดชื่นลูกค้าชอบ ทำขายได้กำไรดี
- สูตรชากาแฟ สูตรชงชาลิตร ชาเขียว ชาเย็น ชานม โกโก้ กาแฟโบราณ
นอกจากที่เราจะมาแบ่งปันชนิดของไข่มุกสำหรับใส่เครื่องดื่มที่ลูกค้าชื่นชอบกันแล้ว วันนี้ทางเราก็ยังมีวิธีการทำไข่มุกเอง รวมไปถึงวิธีการต้มไข่มุกให้เหนียวหนึบมาฝากกัน เพราะไข่มุกนับว่าเป็นท็อปปิ้งอันดับ 1 สำหรับร้านชานมไข่มุก หรือร้านชากาแฟทั่วไปเลยก็ว่าได้ พร้อมแล้วลองมาศึกษา แล้วนำไปทำตามกันได้เลย
วิธีทำไข่มุก
ส่วนผสม
- แป้งมันสำปะหลัง 130 กรัม
- น้ำตาลทรายแดง 60 กรัม
- น้ำเปล่า 70 มิลลิลิตร
ขั้นตอนการทำ
- นำหม้อไปตั้งเตา เทน้ำและน้ำตาลทรายลงไป แล้วเปิดเตาโดยใช้ไฟกลาง
- คนจนน้ำตาลละลายหมด แล้วให้ปิดไฟ
- จากนั้นให้นำเชื่อมที่ได้เทลงไปในแป้ง แล้วผสมให้เข้ากัน
- เสร็จแล้วให้เทแป้งลงบนถาด หรือภาชนะเรียบแบน แล้วนวดต่อด้วยมืออีกครั้ง โดยสามารถโรยแป้งเพื่อช่วยให้นวดง่ายขึ้น และนวดจนได้เนื้อแป้งที่เนียน ไม่ติดมือ
- แล้วให้นำแป้ง มาแบ่งเป็นเส้นยาว ๆ หลายเส้น แล้วให้ตัดแบ่งเป็นชิ้นเล็ก ๆ
- ก่อนจะปั้นไข่มุก ให้นำหม้อไปตั้งไฟ แล้วเติมน้ำลงไป รอจนน้ำเดือด
- ระหว่างที่รอน้ำเดือด ให้ปั้นชิ้นเล็ก ๆ ที่ตัดแบ่งให้ได้ก้อนกลม ๆ และให้โรยแป้งอีกรอบ
เพื่อป้องกันการติดกันเป็นก้อน - เสร็จแล้วให้ใส่ไข่มุกที่ปั้นลงไปต้มในน้ำเดือด 30 นาที แล้วให้ดับไฟ
- จากนั้นให้ปิดฝาหม้อที่ต้มไข่มุก พักทิ้งไว้อีกประมาณ 20 นาที
- เมื่อครบเวลาแล้ว ให้นำไข่มุกที่ได้ไปล้างผ่านน้ำสะอาด เพียงเท่านี้ก็เสร็จแล้ว
วิธีการทำน้ำเชื่อมสำหรับใส่ไข่มุก
ส่วนผสม
- น้ำเปล่า 80 มิลลิลิตร
- น้ำตาลอ้อยแดง 35 กรัม
ขั้นตอนการทำ
- เทน้ำเปล่า และน้ำตาลอ้อยแดง ลงในหม้อ แล้วนำไปตั้งเตาเปิดไฟกลาง
- คนให้น้ำตาลละลายจนหมด แล้วปิดไฟ
- เทไข่มุกที่ทำไว้ลงในหม้อ แล้วคนให้เข้ากัน เท่านี้ก็ได้ไข่มุกพร้อมเป็นท็อปปิ้งเครื่องดื่มแล้ว
สำหรับวิธีการทำไข่มุกเองนั้น บอกเลยว่าไม่ยากแถมใช้วัตถุดิบในการทำน้อย และที่สำคัญยังสามารถเพิ่มกลิ่น เพิ่มรสชาติได้ตามชอบ ง่าย ๆ เท่านี้ก็ช่วยให้ได้ไข่มุกสำหรับร้านแล้ว แถมยังนำมาชูเป็นซิกเนเจอร์ของร้านก็ยังทำได้เช่นกัน อาทิ ไข่มุกจากมะม่วง ไข่มุกจากแก้วมังกร ไข่มุกจากใบเตย เป็นต้น และจากข้างต้นที่กล่าวมานั้นเราก็ยังมีวิธีการต้มไข่มุกให้เหนียวหนึบ โดนใจลูกค้ามาแบ่งปันกันอีกด้วย พร้อมแล้วมาดูกันเลย
วัตถุดิบ
- ไข่มุก
- น้ำเปล่า
- น้ำตาลทรายแดง
ขั้นตอนการทำ
- จุดไฟแล้วตั้งหม้อต้มน้ำ พอน้ำเริ่มร้อนแล้วให้ใส่มุกลงไป
- จากนั้นให้เบาไฟให้อ่อน แล้วคนไข่มุกไปเรื่อย ๆ เพื่อไม่ให้จับตัวเป็นก้อน โดยตั้งเวลาไว้ที่ 35 นาที
- เมื่อครบเวลาที่กำหนดแล้วให้ปิดไฟ แล้วปิดฝาพักไข่มุกไว้อีก 30 นาที
- เมื่อครบเวลาแล้ว ให้นำไข่มุกไปล้างน้ำสะอาด 1-2 น้ำ
- เสร็จแล้วให้นำไปคลุกกับน้ำตาลทรายแดงที่เตรียมไว้ เท่านี้ก็ได้ไข่มุกหนึบ ๆ เหมาะกับเครื่องดื่มแล้ว
ใครที่ต้มไข่มุกเองอยู่แล้วก็สามารถนำวิธีที่เรามาแบ่งปันกันนี้ไปลองทำตามกันได้เลย ง่าย ๆ เท่านี้ก็เอาใจลูกค้าได้แล้ว และนอกจากการมีตัวเลือกอย่างท็อปปิ้งไข่มุกที่หลากหลายแล้ว การมีรสชาติของเครื่องดื่มที่อร่อยกลมกล่อมนั้น ก็คือจุดขายที่ดีในการดึงดูดลูกค้าให้เข้าร้านได้อย่างต่อเนื่องนั่นเอง และการจะทำให้เครื่องดื่มอร่อยได้ร้านต้องรู้จักเลือกใช้วัตถุดิบสำหรับร้านชาไข่มุก วัตถุดิบร้านกาแฟที่มีคุณภาพ รวมไปถึงควรมีสูตรชงที่เป็นมาตรฐานของแต่ละเมนู ศึกษามาตราชั่งตวงเครื่องดื่มเพราะเวลาชงในแต่ละครั้งลูกค้าก็จะได้รับเครื่องดื่มที่มีรสชาติคงที่ ไม่ผิดเพี้ยน
ชานมไข่มุกมีขั้นตอนอะไรบ้าง (การต้มไข่มุกให้อร่อย)

การทำไข่มุกให้หนึบหนับ เคี้ยวเพลิน มีขั้นตอนสำคัญดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 : ต้มไข่มุก
- วิธีทำ: ใส่น้ำลงในหม้อ ตั้งไฟให้เดือดพล่าน (ควรใช้น้ำเยอะๆ ประมาณ 6-10 เท่าของปริมาณไข่มุก) เมื่อน้ำเดือดจัด ใส่ไข่มุกลงไป (ค่อยๆ ใส่ทีละน้อย เพื่อไม่ให้น้ำหยุดเดือด)
- สิ่งสำคัญ: คนไข่มุกเบาๆ ทันทีที่ใส่ลงไป เพื่อไม่ให้ไข่มุกติดกันหรือติดก้นหม้อ
ขั้นตอนที่ 2 : เคี่ยวไข่มุก
- วิธีทำ: เมื่อไข่มุกเดือดลอยขึ้นมาทั้งหมด ให้ลดไฟลงเป็นไฟกลางค่อนข้างอ่อน เคี่ยวต่อตามเวลาที่ระบุบนฉลากไข่มุก (โดยทั่วไปประมาณ 25-35 นาที)
- สิ่งสำคัญ: คอยคนเป็นครั้งคราว เพื่อไม่ให้ไข่มุกติดก้นหม้อ
ขั้นตอนที่ 3 : อบไข่มุก
- วิธีทำ: ปิดไฟ ปิดฝาหม้อ อบไข่มุกทิ้งไว้ในน้ำร้อนต่ออีกประมาณ 20-30 นาที (หรือตามฉลาก)
- สิ่งสำคัญ: ขั้นตอนนี้จะช่วยให้ไข่มุกนุ่มทั่วถึงถึงด้านใน และมีเนื้อสัมผัสที่หนึบหนับกำลังดี
ขั้นตอนที่ 4 : ล้างไข่มุก
- วิธีทำ: ตักไข่มุกขึ้นมา ล้างผ่านน้ำเปล่า (น้ำอุณหภูมิห้อง) หลายๆ รอบ จนเมือกและความเหนียวภายนอกหมดไป
- สิ่งสำคัญ: การล้างจะช่วยให้ไข่มุกไม่ติดกัน และได้เนื้อสัมผัสที่ลื่น เคี้ยวอร่อย
ขั้นตอนที่ 5 : แช่ไข่มุกในน้ำเชื่อม
- วิธีทำ: นำไข่มุกที่ล้างแล้วไปแช่ในน้ำเชื่อม (อาจเป็นน้ำเชื่อมน้ำตาลทรายแดง หรือน้ำเชื่อมธรรมดา) อย่างน้อย 15-30 นาที หรือจนกว่าจะใช้งาน
- สิ่งสำคัญ: ขั้นตอนนี้จะช่วยเพิ่มรสหวานให้ไข่มุก และทำให้ไข่มุกคงความนุ่ม ไม่แข็งตัว
การดื่มชาไข่มุกทุกวันอันตรายไหม

ดื่มชาไข่มุกทุกวัน… ทำไมถึงอันตราย?
1. น้ำตาลสูงปรี๊ดดด ต้นเหตุสารพัดโรค
- ชาไข่มุก 1 แก้ว (ขนาดปกติ) มีน้ำตาลเฉลี่ย 50-60 กรัม หรือเทียบเท่า 10-12 ช้อนชา ซึ่งสูงกว่าปริมาณแนะนำต่อวันที่ไม่ควรเกิน 6 ช้อนชา
- ผลร้าย เพิ่มความเสี่ยง โรคเบาหวาน, โรคอ้วน, โรคหัวใจ และทำให้ ผิวแก่เร็ว
2. แคลอรี่พุ่ง น้ำหนักขึ้นไม่รู้ตัว
- ชาไข่มุก 1 แก้ว อาจมีแคลอรี่สูงถึง 250-400 Kcal เทียบเท่าอาหารมื้อหลัก 1 จานเล็กๆ เลยทีเดียว! หากดื่มทุกวันโดยไม่เผาผลาญออก ก็สะสมเป็นไขมันแน่นอน
3. “ไข่มุก” = แป้ง + น้ำตาล
- ตัวไข่มุกเองทำจากแป้งมันสำปะหลัง (คาร์โบไฮเดรต) และมักจะถูกนำไปเชื่อมกับน้ำตาลก่อนนำมาใส่ในแก้ว ทำให้เพิ่มปริมาณน้ำตาลและแคลอรี่เข้าไปอีก
4. ระวัง “ครีมเทียม” แฝงตัว
- ร้านค้าหลายร้านมักใช้ “ครีมเทียม” (Non-Dairy Creamer) แทน “นมสด” เพื่อลดต้นทุน ซึ่งครีมเทียมมักมีไขมันอิ่มตัวสูง (แม้ปัจจุบันไขมันทรานส์จะถูกควบคุมแล้ว) แต่ก็ยังเพิ่มความเสี่ยงเรื่องไขมันในเลือดสูงได้
5. สารอาหารน้อย…แคลอรี่เปล่าๆ
- ชาไข่มุกให้พลังงานสูง แต่มีสารอาหารจำเป็น (วิตามิน, แร่ธาตุ, ใยอาหาร) น้อยมาก เป็น “แคลอรี่ว่างเปล่า” ที่ร่างกายไม่ต้องการ
6. ฟันผุ…ง่ายกว่าที่คิด
- น้ำตาลและแป้งในชาไข่มุกที่ตกค้างในช่องปาก เป็นอาหารชั้นดีของแบคทีเรีย ทำให้เกิดกรดและฟันผุได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะถ้าไม่แปรงฟันหลังดื่ม
หากใครที่กำลังมองหาผงชาเมล็ดกาแฟในการนำมาชงเครื่องดื่ม แนะนำให้เลือกใช้ผงชาปรุงสำเร็จของโรงคั่วชาเชียงใหม่ ชานกฮูก ที่มีสินค้าผงชาผสม เมล็ดกาแฟ ให้ได้เลือกใช้กันมากกว่า 40 รายการ อาทิ ผงชาเขียวแบบพรีเมียม ผงชาไทยแบบพรีเมียม ผงชานมไต้หวัน ผงโกโก้ กาแฟสด กาแฟโบราณ และสินค้าอื่น ๆ ซึ่งเหมาะมากสำหรับใครที่ต้องการ
ผลิตชา OEM อยากสร้างแฟรนไชส์ชานมไข่มุก สร้างแบรนด์กาแฟ หรือจะอยากได้ชาราคาส่ง
หรือใครที่อยากจะเพิ่มเมนูเครื่องดื่มใหม่ ๆ ร้าน ก็สามารถเลือกดูสูตรชงชา สูตรชงน้ำขายของเราได้เลย มีทั้ง ชาอัญชันมะนาว ชามะนาวปั่น โกโก้กล้วยปั่น นมหมีโกโก้ ชาพีชโซดา
รวมสูตรชาเขียวชาไทย รวมสูตรชาดอกไม้ชาผลไม้ เป็นต้น หรือจะอยากได้เคล็ดลับที่เกี่ยวกับร้านชากาแฟ ก็เลือกอ่านบทความของเราได้เลย อาทิ การทำโปรโมชั่นร้านกาแฟ การเปิดร้านขายกาแฟออนไลน์ การเพิ่มยอดขายด้วยบนฟู้ดเดลิเวอรี่ หรือแม้แต่การเพิ่มยอดขายด้วยเมนูทานคู่กาแฟ และอื่น ๆ อีกมากมาย
สินค้าอื่น ๆ












