โอเลี้ยง 1 ลิตร ทำขาย สูตรโบราณ อร่อยเข้มข้น ต้นทุนต่ำ กำไรดี!
สวัสดี คอกาแฟ (และคอโอเลี้ยง) ทุกคน! วันนี้เราจะมาแจกสูตร “โอเลี้ยง” เครื่องดื่มสุดคลาสสิคที่อยู่คู่คนไทย (และคนรักกาแฟทั่วโลก) มายาวนาน พร้อมเผยเคล็ดลับการชง”โอเลี้ยง 1 ลิตร”แบบอร่อยเข้มข้น ต้นทุนต่ำ กำไรดี เอาใจคนอยากทำขายโดยเฉพาะ!
โอเลี้ยงคืออะไร ?
โอเลี้ยง คือ เครื่องดื่มประเภทกาแฟ ที่เกิดจากการนำ “ผงกาแฟคั่ว” มาชงกับน้ำร้อน แล้วเติมน้ำตาล นิยมดื่มแบบเย็น โดยใส่น้ำแข็ง บางคนอาจเติมนมข้นหวาน หรือปรุงรสชาติเพิ่มเติมตามชอบ คำว่า “โอเลี้ยง” มีที่มาจากภาษาจีนฮกเกี้ยน แปลว่า “กาแฟดำ” ซึ่งสะท้อนถึงวัฒนธรรมการดื่มกาแฟของชาวจีนโพ้นทะเล ที่เข้ามาตั้งรกรากในประเทศไทย และมีบทบาทสำคัญในการเผยแพร่ และพัฒนาวัฒนธรรมการดื่มกาแฟในสไตล์ “กาแฟโบราณ” ที่เราคุ้นเคยกันดี
นอกจากนี้ โอเลี้ยงยังเป็นเครื่องดื่มที่ราคาไม่แพง หาซื้อง่าย จึงเป็นที่นิยมของคนทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย จนถึงวัยรุ่นยุคใหม่ เรียกได้ว่าเป็นเครื่องดื่มที่ครองใจคนไทย (และชาวต่างชาติ) มาอย่างยาวนาน โอเลี้ยง มีเสน่ห์ที่รสชาติเข้มข้น กลมกล่อม หอมกรุ่น ดื่มแล้วสดชื่น ตื่นตัว แถมยังเข้ากันได้ดีกับอาหารเช้า หรือขนมหวานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ปาท่องโก๋ สังขยา ขนมปัง ฯลฯ
โอเลี้ยง vs กาแฟดำ ต่างกันอย่างไร ?
หลายคนอาจสงสัยว่า “โอเลี้ยง” กับ “กาแฟดำ” เหมือนกันหรือไม่? คำตอบคือ “ไม่เหมือนกันซะทีเดียว”
- โอเลี้ยง : มักใช้ “ผงกาแฟคั่ว” แบบโบราณ ซึ่งมีส่วนผสมของเมล็ดกาแฟ และธัญพืชอื่นๆ เช่น ข้าวโพด ถั่ว งา ฯลฯ คั่วรวมกัน ให้รสชาติเข้มข้น กลมกล่อม หอม มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
- กาแฟดำ : มักใช้ “เมล็ดกาแฟ” คั่วบด ชงด้วยวิธีต่างๆ เช่น Drip French Press Moka Pot ฯลฯ ให้รสชาติ และกลิ่นที่หลากหลาย ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ แหล่งปลูก และวิธีการคั่ว การบด การชง
โอเลี้ยง ไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องดื่ม แต่ยังสะท้อนถึง “วัฒนธรรม” “วิถีชีวิต” และ “ความทรงจำ” ของผู้คน ไม่ว่าจะเป็น ภาพร้านกาแฟโบราณ เสียงคนชงกาแฟ กลิ่นหอมของโอเลี้ยง ล้วนเป็นสิ่งที่คุ้นเคย และสร้างความประทับใจ ให้กับใครหลาย ๆ คน วันนี้เราจะมาเผย “สูตรโอเลี้ยง 1 ลิตร ทำขาย สูตรโบราณ” แบบละเอียด พร้อมเคล็ดลับชงโอเลี้ยงให้อร่อยเข้มข้น ขายดิบขายดี แน่นอน!
สนใจอยากได้ราคาส่ง เริ่มต้น 6 กิโลกรัมขึ้นไป แอดไลน์ @bluemochacoffee
เราเลือกใช้“ผงกาแฟโบราณ”คุณภาพดี“ผงกาแฟโกปี๊”ของโรงคั่วชา Bluemocha มีความเข้มข้น หอมกรุ่น กาแฟโบราณสูตรเข้มข้น ผลิตจากกาแฟโรบัสต้าคั่วเข้ม ที่นำมาผ่านกรรมวิธีคั่วพิเศษที่คั่วผสมกับน้ำตาล และธัญพืช 3 % ไม่ว่าจะเป็น ข้าวกล้อง, ข้าวโพด และงาดำ ทำให้รสชาติของกาแฟมีความที่โดดเด่น และรสชาติที่เข้มข้น สามารถชงกับนม ทำให้สีของกาแฟโกปี๊สู้นมได้ ไม่มีรสขม ไม่มีกลิ่นไหม้ ชงได้ง่ายมากด้วยถุงกรอง หรือต้ม ซึ่งใคร ๆ ก็รู้จัก“กาแฟโกปี๊ (Kopi)”เมนูคลาสสิคที่ยังคงฮิตติดลมบนมาจนถึงทุกวันนี้“โกปี๊”คำนี้มาจากคำว่า“Coffee”สำเนียงภาคใต้ ออกเสียงว่า โกปิ๊ โกปี้ หรือโกปี๊ แล้วแต่ท้องถิ่น
เมนู โอเลี้ยง 1 ลิตร
ส่วนผสมโอเลี้ยง 1 ลิตร
- ผงกาแฟโกปี๊ 60 กรัม
- น้ำร้อน 1,000 มิลลิลิตร
- น้ำตาลทรายแดง 40 กรัม
วิธีทำโอเลี้ยง 1 ลิตร
- นำผงกาแฟโกปี๊ 60 กรัม ใส่ถุงกรอง
- ตามด้วยน้ำร้อน 1,000 มิลลิลิตร แช่ทิ้งไว้ 10-15 นาที
- ครบเวลาแล้วนำมากรองเอาน้ำชาออกใส่ภาชนะ
- จากนั้นใส่น้ำตาลทรายแดง 40 กรัม และคนให้น้ำตาลทรายแดงละลาย
- เป็นอันเสร็จ
เคล็ดลับ : ชง”โอเลี้ยง 1 ลิตร”ให้อร่อยเข้มข้น
การชงโอเลี้ยงให้อร่อย ไม่ได้มีแค่สูตรตายตัว แต่ยังมีเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จะช่วยยกระดับรสชาติโอเลี้ยง ให้กลมกล่อม หอมกรุ่น ถูกใจคอกาแฟจนต้องติดใจ มาดูกันเลย!
1. เทคนิคการเลือกผงกาแฟ
- คั่วเข้ม : เลือกผงกาแฟคั่วเข้ม จะได้โอเลี้ยงรสชาติเข้มข้น หอมกลิ่นไหม้นิดๆ (แต่ไม่ไหม้เกรียมนะ!)
- ระดับการบด : ผงกาแฟสำหรับชงโอเลี้ยง ควรบดหยาบ ไม่ละเอียดมาก เพื่อให้สะดวกต่อการกรอง และไม่ทำให้โอเลี้ยงขุ่น
3. การควบคุมเวลาในการต้มและการชง
- การต้มน้ำ : ต้มน้ำให้เดือด แต่ไม่ควรต้มนานเกินไป เพราะจะทำให้น้ำระเหย และรสชาติโอเลี้ยงเปลี่ยน
- การชง : หลังจากเติมผงกาแฟ ควรคนให้เข้ากัน แล้วปิดฝา ทิ้งไว้ประมาณ 3-5 นาที เพื่อให้ผงกาแฟละลาย และรสชาติ กลิ่น ออกมาเต็มที่
2. อัตราส่วนผงกาแฟ : น้ำ
- สูตรเข้มข้น : ผงกาแฟ 100 กรัม : น้ำ 1 ลิตร
- สูตรกลาง : ผงกาแฟ 80 กรัม : น้ำ 1 ลิตร
- สูตรอ่อน : ผงกาแฟ 60 กรัม : น้ำ 1 ลิตร
4. การกรอง
- กรองให้ใส : ใช้กระชอน หรือผ้าขาวบางกรองโอเลี้ยง เพื่อให้ได้น้ำโอเลี้ยงที่ใสไม่มีกาก
- อย่าบีบ : ระหว่างกรองไม่ควรบีบหรือกด เพราะจะทำให้กากกาแฟ ลงไปในน้ำโอเลี้ยง
Tips : ใช้ถุงชงชา สำหรับคนที่ไม่สะดวกกรอง สามารถใช้ถุงชงชา ใส่ผงกาแฟ แล้วนำไปชงได้ ระหว่างชง ควรคนเป็นระยะ เพื่อให้ผงกาแฟละลายทั่วกัน หลังจากชงเสร็จควรชิมรสชาติ และปรับแต่งตามความชอบ
โอเลี้ยง ยิ่งเข้มข้น ยิ่งอร่อย! หวังว่าเคล็ดลับเหล่านี้ จะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่อยากชงโอเลี้ยง แบบอร่อยเข้มข้น ถูกใจลูกค้า ขายดิบขายดี! มาถึงเรื่องสำคัญที่หลายคนให้ความสนใจไม่แพ้รสชาติ นั่นก็คือเรื่อง “ต้นทุน กำไร” ใครที่อยากทำโอเลี้ยงขาย ต้องรู้จักคำนวณต้นทุนให้เป็น ตั้งราคาขายให้เหมาะสม ถึงจะอยู่รอดและมีกำไร วันนี้เรามีข้อมูลมาฝากกัน ไปดูกันเลย!
ต้นทุนต่ำ กำไรดี คำนวณต้นทุน ตั้งราคาขาย “โอเลี้ยง 1 ลิตร”
การทำโอเลี้ยงขาย นอกจากรสชาติจะต้องอร่อยถูกใจลูกค้าแล้ว เรื่องต้นทุน และกำไร ก็เป็นสิ่งสำคัญ ที่ผู้ขายต้องให้ความสำคัญ เพราะจะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโต และยั่งยืน
วัตถุดิบ | ปริมาณ | ต้นทุน |
---|---|---|
ผงกาแฟโกปี๊ | 60 กรัม | 17.4 บาท |
น้ำเปล่า | 1,000 มิลลิลิตร | 6.5 บาท |
น้ำตาลทรายแดง | 40 กรัม | 1.9 บาท |
รวมเฉลี่ย | 25.8 บาท |
**ราคาต้นทุนสามารถปรับเปลี่ยนได้เสมอโปรดใช้วิจารณญาณในการเลือกซื้อ**
ใช้ผงกาแฟโกปี๊ 60 กรัม น้ำเปล่า 1,000 มิลลิลิตร น้ำตาลทรายแดง 40 กรัม ต่อโอเลี้ยง 1 ลิตร
- ต้นทุนผงกาแฟโกปี๊ = (290 บาท / 1,000 กรัม) x 60 กรัม = 17.4 บาท
- ต้นทุนน้ำเปล่า = (39 บาท / 1000 มิลลิลิตร) x 6,000 มิลลิลิตร = 1.9 บาท
- ต้นทุนน้ำตาลทรายแดง = (49 บาท / 1000 กรัม) x 40 กรัม = 6.5 บาท
**รวมต้นทุนวัตถุดิบ = 17.4 + 1.9 + 6.5 = 25.8 บาท (ราคานี้ไม่รวมต้นทุนอื่น ๆ )**
โอเลี้ยง 1 ลิตร สามารถแบ่งขายได้ 5 แก้ว ราคาต้นทุนต่อแก้วเฉลี่ยอยู่ที่ 5.1 บาท สามารถตั้งราคาขาย 20-25 บาทได้เลยหรือตามความเหมาะสม การคำนวณต้นทุน และตั้งราคาขายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการทำธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็ก หรือขนาดใหญ่การรู้จักคำนวณ และวางแผนจะช่วยให้ธุรกิจของคุณ ประสบความสำเร็จ และยั่งยืน หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ สำหรับคนที่อยากทำโอเลี้ยงขายนะครับ ขอให้ขายดิบขายดี กำไรปัง ๆ!
ไอเดีย “เพิ่มมูลค่า” สร้างรายได้จาก”โอเลี้ยง 1 ลิตร”
การเพิ่มมูลค่าให้กับโอเลี้ยงเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ จะช่วยให้คุณขายโอเลี้ยงได้ในราคาที่สูงขึ้นเพิ่มกำไร และสร้างแบรนด์ ให้เป็นที่จดจำลองนำไอเดียเหล่านี้ไปปรับใช้ดูได้เลย!
1. เมนูโอเลี้ยงหลากหลาย
- โอเลี้ยงเย็น (แบบธรรมดา)
- โอเลี้ยงทรงเครื่อง (ใส่เครื่องต่าง ๆ เช่น เฉาก๊วย, ลอดช่อง, นมสด ฯลฯ)
- โอเลี้ยงนมสด
- โอเลี้ยงกาแฟสด (ผสมกาแฟสด เพิ่มความเข้มข้น)
- โอเลี้ยงโบราณ (เน้นสูตรดั้งเดิม รสชาติเข้มข้น)
3. ช่องทางการขาย
- หน้าร้าน (ร้านกาแฟ, ร้านอาหาร ฯลฯ)
- ออนไลน์ (Facebook, Line, Instagram ฯลฯ)
- เดลิเวอรี่ (Grab, Foodpanda, Line Man ฯลฯ)
- ออกบูธ ตามงานต่าง ๆ
2. การตกแต่ง บรรจุภัณฑ์
- เลือกใช้ขวด แก้ว ที่สวยงาม มีเอกลักษณ์
- ออกแบบโลโก้ สติ๊กกอร์ ให้ดูโดดเด่น
- ใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
- ตกแต่งร้าน (ถ้ามี) ให้ดูสะอาดตา น่าดึงดูด
4. การตลาด โปรโมชั่น
- จัดโปรโมชั่น ลดราคา สะสมแต้ม
- สร้างแบรนด์ ให้เป็นที่รู้จัก
- ใช้ Social Media ในการประชาสัมพันธ์
- ร่วมมือกับร้านค้าอื่นๆ ในการโปรโมท
การเพิ่มมูลค่าไม่ได้จำกัดอยู่แค่ รสชาติ หรือบรรจุภัณฑ์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้า เช่น การบริการที่ดี บรรยากาศร้าน หรือกิจกรรมส่งเสริมการขายต่าง ๆ ลองคิดนอกกรอบสร้างสรรค์เมนู และบริการใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า และสร้างความแตกต่าง ให้กับธุรกิจของคุณ โอเลี้ยงไม่ใช่แค่เครื่องดื่ม แต่เป็นโอกาสโอเลี้ยงเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยม และมีโอกาสทางธุรกิจสูง การเพิ่มมูลค่าจะช่วยให้คุณสร้างรายได้ และเติบโตในธุรกิจนี้ได้อย่างยั่งยืน
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
1. โอเลี้ยงเก็บได้นานแค่ไหน ?
โอเลี้ยงที่ชงแล้ว สามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้ประมาณ 2-3 วัน แต่รสชาติ และกลิ่น อาจจะเปลี่ยนไปบ้าง แนะนำให้ชงใหม่ๆ จะอร่อยกว่าครับ
2. วิธีเก็บรักษาโอเลี้ยง?
หลังจากชงเสร็จ ควรปล่อยให้โอเลี้ยงเย็นสนิทก่อน แล้วจึงนำไปใส่ขวด หรือภาชนะที่มีฝาปิดสนิท เก็บในตู้เย็น (ช่องธรรมดา) อุณหภูมิประมาณ 4-5 องศาเซลเซียส ไม่ควรเก็บไว้นานเกิน 3 วัน เพราะรสชาติ และกลิ่น จะเปลี่ยนไป
3. โอเลี้ยงต่างจากกาแฟดำอย่างไร?
โอเลี้ยงมักใช้ “ผงกาแฟคั่ว” แบบโบราณ ซึ่งมีส่วนผสมของเมล็ดกาแฟ และธัญพืชอื่น ๆ ส่วนกาแฟดำ ใช้ “เมล็ดกาแฟ” คั่วบด 100% โอเลี้ยงมีรสชาติเข้มข้น กลมกล่อม หอม มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ส่วนกาแฟดำ มีรสชาติ และกลิ่นที่หลากหลาย ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ แหล่งปลูก และวิธีการคั่ว การบด การชง
4. ดื่มโอเลี้ยงแล้ว จะนอนไม่หลับไหม ?
โอเลี้ยงมีคาเฟอีน ซึ่งอาจทำให้บางคนนอนไม่หลับ ถ้าดื่มในปริมาณมาก หรือดื่มใกล้เวลานอน ควรดื่มในปริมาณที่พอเหมาะ และไม่ควรดื่มหลัง 14.00 น.
5. โอเลี้ยงมีประโยชน์อย่างไร?
ช่วยให้รู้สึกสดชื่น ตื่นตัว มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงของโรคต่างๆ ช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญ (แต่ไม่ควรดื่มเพื่อลดน้ำหนัก)
สำหรับใครที่อยากได้สูตรชงดี ๆ แบบนี้สามารถกดเข้าไปที่ตรงนี้ !! เรามีสูตรชงมากกว่า 200 รายการ สามารถนำสูตรไปชงขายได้เลย หรือใครที่สนใจ”ผงกาแฟโบราณ”หรือวัตถุดิบอื่น ๆ เรามีสินค้ามากกว่า 40 รายการ ไม่ว่าจะเป็น ชาเขียว, ชาไทย, ชาไต้หวัน, ชาดอกไม้, ชาผลไม้, ผงโกโก้, ผงมัทฉะ, เมล็ดกาแฟ และผงครีมชีส แต่ถ้าลูกค้าอยากได้ชาที่ต้องการ สามารถที่จะสอบถามทีมงานเราได้เลย เรามีบริการพัฒนาสูตรตามความต้องการของลูกค้า
บทความที่เกียวข้อง”โอเลี้ยง 1 ลิตร”
- บุกตลาดชาจีน ! รับผลิตชาคุณภาพส่งออก โรงงานผลิตชาเชียงใหม่
- รับผลิตแบรนด์ชา รับผลิตชา OEM&ODM ส่งออกทั่วโลก !!
- แฟรนไชส์ชาไทย vs แฟรนไชส์ชาจีน ทำแฟรนไชส์ชาไทยชนะใจลูกค้า ?
โรงงานผลิตชา Bluemocha มีบริการผลิตชา OEM&ODM ที่มีมาตรฐานรับรอง มีทีมงานดูแลทุกขั้นตอน ตั้งแต่เริ่มต้นให้คำปรึกษา จัดหาวัตถุดิบ ดูแลในส่วนของกระบวนการผลิต การบรรจุ ตลอดจนไปถึงการหาบริการขนส่งที่เหมาะสม เพื่อให้ถึงมือลูกค้าอย่างปลอดภัย และมีคุณภาพที่ดี สามารถผลิตชาได้หลากหลายชนิด ทั้งยังมีบริการรับพัฒนาสูตรชา และแกะสูตรชาได้ตามความต้องการของลูกค้า
หากสนใจทำแบรนด์กับ Bluemocha เรา เริ่มต้นทำแบรนด์ได้เลยเมื่อสั่งผลิต 51 กิโลกรัมขึ้นไป Bluemocha เรามีบริการ ออกแบบโลโก้ฟรี จดอย.ให้ฟรี เมื่อสั่งผลิต100 กิโลกรัมขึ้นไป ยื่นขอรับรองฮาลาล (HALAL) เมื่อสั่งผลิต 500 กิโลกรัมขึ้นไป, ปรับสูตรชาได้ตามความต้องการของลูกค้า, มีตัวอย่างให้ทดลองฟรี และยื่นขอใบสำหรับลูกค้าที่ต้องการส่งออกไปต่างประเทศ Bluemocha พร้อมให้บริการลูกค้าทุกท่าน
“Bluemocha เราคือ เพื่อนคู่คิด ผลิตใบชา ให้คำปรึกษาครบวงจร”
WRITTEN BY
Thitinan K.
ยิมมี่ ผู้ชำนาญการขายบนแฟลตฟอร์ม ชื่นชอบในการเล่าเรื่องที่รักทั้งงานเขียน และรักในการพูดคุย จึงรวมทั้งสองสิ่งนี้เข้าไว้เข้าด้วยกันจนออกมาเป็นชิ้นงาน และบทความที่ดี