โซดา

รวม 5 โซดา ซ่านาน หาซื้อง่าย สำหรับทำเมนูโซดา

โซดา น้ำโซดา เครื่องดื่มที่สามารถช่วยเพิ่มความซ่าสดชื่นให้กับหลาย ๆ เมนู นิยมนำมาชงขายเป็นเครื่องดื่มเย็น ๆ เมนูชาใส ผสมกับไซรัปรสชาติต่าง ๆ เช่น อิตาเลี่ยนโซดา
น้ำแดงมะนาวโซดา กี่วี่โซดา สตรอว์เบอร์รี่โซดา เป็นต้น น้ำโซดาจึงเป็นไอเทมสำคัญที่ทุกร้านเครื่องดื่มต้องมี 

Advertisements

โซดา (Soda) คือ น้ำที่อัดด้วยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือ CO2 ที่ผสมด้วยแร่ธาตุอย่าง โพแทสเซียมซัลเฟต โซเดียมคลอไรด์ ไดโซเดียม ฟอสเฟต และโซเดียมไบคาร์โบเนต จำนวนและชนิดของแร่ธาตุที่เติมลงไปผสมนั้นขึ้นอยู่กับแต่ละยี่ห้อ 

วันนี้ทาง bluemocha เราจึงมี 5 โซดายี่ห้อไหนดี ยี่ห้อไหนซ่าสดชื่น มาแบ่งปันกัน สำหรับใครที่เปิดร้านเครื่องดื่มลองศึกษาดู และเลือกซื้อเลือกใช้กันได้ตามสะดวกเลย แค่มีโซดา
ก็ช่วยเพิ่มเมนูเครื่องดื่มในร้านได้มากมาย 

อ่านเพิ่มเติม

5 โซดา ยี่ห้อไหนดี

1. Singha (น้ำโซดาสิงห์)

โซดา

พูดถึงโซดาหลายคนต้องนึกถึงหรือเลือกใช้โซดาสิงห์กันอย่างแน่นอน เพราะผลิตจากแหล่งน้ำธรรมชาติ ผ่านกระบวนการผลิคอย่างพิถีพิถัน แล้วจึงเติมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ให้ความละเอียดของฟองที่ช่วยเพิ่มซ่าสดชื่นได้ยาวนาน แถมยังมีรสนุ่มนวลไม่บาดคอ ทำให้มีรสชาติเมื่อนำมาผสมกับเครื่องดื่มแล้วจึงชูให้เครื่องดื่มมีรสชาติที่อร่อย สีและกลิ่นไม่ผิดเพี้ยน โดยมี 2 ขนาดให้ได้เลือกใช้กันคือ ปริมาณ 325 มิลลิลิตร และ 400 มิลลิลิตร ทั้งยังหาซื้อง่ายได้ตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป แถมมีราคาถูกมากเพียงขวดละ 8-10 บาทเท่านั้น 

และนอกจากนี้สิงห์ยังออกผลิตภัณฑ์ใหม่โซดาใหม่ เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือก คือ สิงห์เลมอนโซดา และสิงห์ยูซุเลมอนโซดา ที่เป็นน้ำโซดามาพร้อมกับรสชาติและกลิ่นเฉพาะ อร่อยลงตัวได้ง่าย ๆ หรือจะนำไปชงเครื่องดื่มก็ได้ เช่น กาแฟส้มยูซุ กาแฟเลม่อน เป็นต้น 

2. Rock Mountain (น้ำโซดาร็อค เมาเท็น) 

โซดา

โซดาขวดที่มีรูปภูเขาสีเทาสวยงามช่วยเพิ่มความหนักแน่นให้ดูซ่าตลอดเวลา ที่มีพรายฟองนุ่ม ละเอียด ไม่บาดคอ แถมยังให้ความซ่าที่ยาวนาน ด้วยเทคโนโลยี Cold Infusion ช่วยล็อกความซ่าเอาไว้ในน้ำได้นานยิ่งขึ้น ไม่ทำให้เสียรสชาติ จึงคงความอร่อยของทุกเมนูโซดาไว้ได้ดีนั่นเอง ซึ่งสามารถเลือกใช้กันได้ 2 ขนาด คือ ปริมาณ 325 มิลลิลิตรแบบไม่คืนขวด และ 400 มิลลิลิตรแบบคืนขวด สามารถหาซื้อได้ทั่วไปเลยทั้งร้านค้าใกล้บ้าน และห้างสรรพสินค้า ราคาก็ถูกสุด ๆ เพียง 7-9 บาท   

3. Leo (น้ำโซดาลีโอ)  

โซดา

โซดาน้ำเปล่าที่ถูกใจหลาย ๆ คน เพราะมีฟองนิ่มละเอียด ให้ความซ่าสดชื่นยาวนาน แถมไม่มีกลิ่นและรสชาติ ไม่มีรสฝาด ไม่บาดคอ นำไปผสมชงกับเมนูเครื่องดื่มได้เลย ทั้งน้ำแดงโซดา ชามะนาวโซดา หรืออิตาเลี่ยนโซดา เป็นต้น ปล่อยทิ้งไว้กลับมาดื่มใหม่ก็ยังคงความซ่าได้ดี ไม่ต้องกังวลว่ารสชาติเครื่องดื่มจะเปลี่ยนไป
โดย 1 ขวดบรรจุปริมาณ 325 มิลลิลิตร ทั้งยังหาซื้อได้ตามร้านค้าสะดวกซื้อทั่วไป ราคาอยู่ที่ 8-10 บาท 

4. Chang (น้ำโซดา ช้าง)  

โซดา

โซดาอีกหนึ่งยี่ห้อที่หลายคนคุ้นเคย เพราะมีรสสัมผัสที่ใส ไม่มีกลิ่น ไม่มีความขมฝาด แถมยังให้ความซ่ากับฟองเนียนละเอียด  จึงหมาะมากกับการนำไปผสมกับเครื่องดื่มชนิดอื่น ๆ เพื่อเพิ่มความอร่อยความสดชื่นได้ยาวนาน โดยมี 2 ขนาดให้ได้เลือกใช้กัน คือ ปริมาณ 325 มิลลิลิตร และปริมาณ 400 มิลลิลิตร หาซื้อได้ตามร้านทั่วไปราคาประมาณ 7-9 บาท 

5. Schweppes (ชเวปส์ มิกเซอร์ โซดา)  

โซดา
โซดา
โซดา

เติมความซ่าให้กับเครื่องดื่มได้ง่าย ๆ กับชเวปส์น้ำอัดลมโซดา ที่มาพร้อมกับบรรจุภัณฑ์แบบกระป๋อง และมีหลากหลายรสชาติ ทั้ง Manao Soda, Soda Water, Dry Ginger Ale และ Tonic Soda Water เป็นเครื่องดื่มโซดาที่มาพร้อมกับความซ่าสดชื่นยาวนาน และมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ให้ความซ่าของโซดาที่ละมุน ไม่บาดคอเท่ายี่ห้ออื่น ๆ ปริมาณต่อกระป๋องอยู่ที่ 330 มิลลิลิตร สามารถที่จะเลือกใช้แล้วนำไปชงเครื่องดื่มได้หลากเมนูกันเลยทีเดียว โดย 1 กระป๋องบรรจุปริมาณ 330 มิลลิลิตร หาซื้อได้ตามร้านค้าสะดวกซื้อได้เลย ส่วนราคาจะอยู่ที่ 12-15 บาท 

ราคาถูก หาซื้อได้ง่าย แถมยังช่วยเพิ่มความสดชื่นให้กับเมนูเครื่องดื่มที่ต้องการได้อีกด้วย น้ำโซดาจึงเป็นตัวเลือกที่ดีเลยก็ว่าได้ในการช่วยเพิ่มเมนูใหม่ ๆ ในร้าน สามารถที่จะเลือกซื้อเลือกใช้ตามกันได้เลย หรือจะลองเลือกใช้ น้ำแร่ชนิดมีฟอง โทนิก เซลท์เซอร์ แทนการใช้โซดาก็ได้ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละร้าน 

Advertisements

สูตรชง ชามะนาวโซดา

อัตราส่วนผสม

  • ชาแดงพรีเมียม 13-15 กรัม
  • น้ำร้อน 30 มิลลิลิตร
  • น้ำมะนาว 5 มิลลิลิตร
  • น้ำเชื่อม 30 มิลลิลิตร
  • โซดา 1 ขวด
  • น้ำแข็ง

ขั้นตอนการชง 

  • ตักชาแดงพรีเมียมใส่ก้านชง นำเข้าเครื่องชงสกัดน้ำชาให้ได้ 2 ออนซ์
  • เติมน้ำร้อนลงไป คนให้เข้ากัน
  • เติมน้ำมะนาว น้ำเชื่อม ลงไปคนนให้ส่วนผสมเข้ากัน
  • จากนั้นให้เทชาแดงในแก้ว
  • แล้วค่อยตักน้ำแข็งใส่ในแก้วตามลงไป 
  • เสร็จแล้วค่อยให้ราดโซดาใส่ด้านบนจนเต็มแก้ว แต่งด้วยมะนาวฝานให้สวยงาม

โซดาคืออะไร

โซดา… น้ำใสๆ แต่ทำไมถึงซ่าจังนะ? มาดูกันว่าเบื้องหลังความสดชื่นนี้คืออะไร และโซดามีขั้นตอนวิธีการทำอย่างไร

โซดาคืออะไร ทำมาจากอะไร มีขั้นตอนการทำอย่างไร

โซดาคืออะไร ? (What is Soda?)

  • โซดา (Soda Water / Carbonated Water / Seltzer Water) คือ “น้ำเปล่า” ที่ถูกเติม “ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2)” เข้าไปภายใต้ความดัน
  • ไม่ได้มีการเติมน้ำตาล หรือสารปรุงแต่งรสชาติใดๆ (ถ้าหากเป็นโซดาเปล่าๆ)

ส่วนประกอบหลักของโซดา

  • น้ำ (Water): ใช้น้ำเปล่าที่ผ่านการกรองและทำให้บริสุทธิ์
  • ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2): ก๊าซที่ทำให้เกิดฟองฟู่และความซ่า

ขั้นตอนการทำ “โซดา”

ขั้นตอนที่ 1 เตรียมน้ำบริสุทธิ์

  • นำน้ำเปล่ามาผ่านกระบวนการกรองและทำความสะอาดให้บริสุทธิ์ที่สุด

ขั้นตอนที่ 2 ทำให้เย็นจัด

  • นำน้ำเปล่าที่บริสุทธิ์แล้วไปลดอุณหภูมิให้ เย็นจัดๆ (น้ำเย็นจะดูดซับก๊าซได้ดีกว่าน้ำร้อน)

ขั้นตอนที่ 3 อัดก๊าซ (Carbonation)

  • อัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) เข้าไปในน้ำภายใต้ ความดันสูง
  • ก๊าซจะละลายเข้าไปในน้ำและเกิดเป็น “กรดคาร์บอนิก” อ่อนๆ

ขั้นตอนที่ 4 บรรจุขวด/กระป๋อง

  • นำน้ำโซดาที่ได้ไปบรรจุลงในขวดหรือกระป๋องที่ปิดสนิท เพื่อคงความดันและก๊าซไว้

ทำไมถึงโซดาถึง “ซ่า”?

  • เมื่อเปิดขวด/กระป๋องโซดา ความดันภายในจะลดลงทันที
  • ทำให้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ละลายอยู่ในน้ำ “ดีดตัว” ออกมาจากน้ำในรูปของฟองอากาศ
  • เกิดเป็นความรู้สึกซ่าและฟองฟู่ที่คุณสัมผัสได้!

สรุป โซดา = น้ำ + ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (ภายใต้ความดัน!)

โซดามีประโยชน์และโทษอย่างไร

โซดา… เครื่องดื่มซ่าๆ ที่หลายคนชอบดื่มเพื่อความสดชื่น! แต่รู้หรือไม่ว่ามันมีทั้งคุณและโทษ มาดูกันให้ชัดๆ กันดีกว่า ว่ามีอะไรบ้าง

โซดา มีประโยชน์และโทษอย่างไร

ประโยชน์ของโซดา

1. ช่วยให้สดชื่น ดับกระหาย

ความซ่าของคาร์บอนไดออกไซด์ช่วยกระตุ้นต่อมรับรส ทำให้รู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า ดับกระหายได้ดีกว่าน้ำเปล่า

2. ช่วยย่อยอาหาร

ความซ่าอาจช่วยกระตุ้นการเคลื่อนไหวของกระเพาะอาหารและลำไส้ ทำให้รู้สึกสบายท้องขึ้น หลังมื้ออาหารหนักๆ

3. ไม่มีแคลอรี่/น้ำตาล

หากเป็นโซดาเปล่าๆ ไม่มีน้ำตาลหรือสารปรุงแต่งรส ก็ถือเป็นเครื่องดื่มทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก

4. เป็นส่วนผสมที่ดี

ใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องดื่มต่างๆ เพื่อเพิ่มความซ่าและมิติรสชาติ โดยไม่ไปกลบรสชาติหลัก

โทษ/ข้อควรระวังของโซดา

1. อาจทำให้ท้องอืด/มีแก๊ส

ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในโซดาเมื่อลงสู่กระเพาะอาหาร อาจทำให้รู้สึกแน่น ท้องอืด หรือมีเรอมากขึ้นในบางคน

2. กรดกัดกร่อนเคลือบฟัน

โซดามีความเป็นกรดอ่อนๆ (กรดคาร์บอนิก) ซึ่งอาจทำลายเคลือบฟันเมื่อบริโภคบ่อยๆ หรือเป็นเวลานาน ทำให้ฟันกร่อนหรือเสียวฟันง่ายขึ้น

3. อาจระคายเคืองกระเพาะ (สำหรับบางคน)

ผู้ที่มีปัญหาโรคกระเพาะอาหาร กรดไหลย้อน หรือลำไส้แปรปรวน ควรหลีกเลี่ยง เพราะความซ่าและกรดอาจกระตุ้นให้อาการแย่ลง

4. ไม่ใช่น้ำเปล่าทดแทน

แม้จะดับกระหาย แต่โซดาไม่ควรดื่มทดแทนน้ำเปล่าทั้งหมด เพราะน้ำเปล่ายังคงจำเป็นที่สุดต่อการทำงานของร่างกายในหลายๆ ด้าน

ใครบ้างที่ “ไม่ควร” ดื่มโซดา

โซดาสดชื่น… แต่ไม่เหมาะกับทุกคน! ผู้ที่มีโรคประจำตัวเหล่านี้ ควรหลีกเลี่ยงหรือปรึกษาแพทย์ก่อนดื่ม

ใครบ้างที่ไม่ควรดื่มโซดา

กลุ่มผู้ป่วยที่ควรหลีกเลี่ยงโซดา

1. ผู้ป่วยโรคกรดไหลย้อน

ความซ่าของก๊าซและกรดคาร์บอนิกอ่อนๆ ในโซดา สามารถกระตุ้นให้กรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนกลับขึ้นมายังหลอดอาหารได้ง่ายขึ้น ทำให้อาการแย่ลง

2. ผู้ป่วยโรคกระเพาะอาหารอักเสบ / แผลในกระเพาะอาหาร

ก๊าซในโซดาอาจทำให้กระเพาะอาหารขยายตัวและเกิดการระคายเคืองต่อเยื่อบุที่อักเสบอยู่แล้ว หรือทำให้แผลเปิดมากขึ้นได้

3. ผู้ป่วยโรคลำไส้แปรปรวน (IBS)

ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อาจไปกระตุ้นลำไส้ ทำให้เกิดอาการท้องอืด ปวดท้อง หรือแก๊สในลำไส้มากขึ้นในผู้ป่วย IBS ที่ไวต่อการกระตุ้น

4. ผู้ป่วยที่ต้องควบคุมปริมาณแก๊สในกระเพาะอาหาร/ลำไส้

เช่น ผู้ป่วยหลังผ่าตัดช่องท้อง, ผู้ที่มีปัญหาท้องอืดเรื้อรัง, ผู้ป่วยที่มีแก๊สในระบบทางเดินอาหารมากผิดปกติ

5. ผู้ที่มีปัญหาฟันผุ/ฟันกร่อนง่าย หรือเคลือบฟันบาง

แม้เป็นกรดอ่อนๆ แต่การบริโภคบ่อยๆ อาจทำลายเคลือบฟันได้ ทำให้ฟันผุหรือเสียวฟันง่ายขึ้น

สำหรับการเปิดร้านชา ร้านกาแฟ สิ่งที่สำคัญคือต้องรู้จักเสิร์ฟเครื่องดื่มที่อร่อยกลมกล่อมให้กับลูกค้า เพราะถือว่าเป็นจุดขายที่ดีที่สุด ที่จะช่วยให้ลูกค้ากลับมาซื้อร้านของคุณได้เองอย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องใช้โปรโมชั่นในการถึงดูดลูกค้า ซึ่งการจะมีเมนูเครื่องดื่มที่อร่อย หอมเข้มข้น ต้องเริ่มต้นด้วยการเลือกใช้วัตถุดิบหลักอย่างใบชาเมล็ดกาแฟคุณภาพดี
ของโรงคั่วชาเชียงใหม่ ชานกฮูก ที่ผลิตด้วยโรงงานที่ได้รับมาตรฐาน ผ่านกระบวนการผลิตอย่างพิถีพิถัน แถมมีให้เลือกใช้กันมากกว่า 30 รายการ นำไปชงกับโซดาก็ได้ อาทิเช่น
ชาเขียวพรีเมียม ชาแดงพรีเมียม ชาไต้หวันพรีเมียม ผงโกโก้พรีเมียม กาแฟโบราณ ผงมัทฉะ หรือแม้แต่ ชาผลไม้ ชาดอกไม้ อย่าง ชาพีช ชาเบอร์รี่ ชาอัญชัน ชามะลิใส ชาสด ชาเขียวใส ที่ชงได้กับทั้งไซรัปและผลไม้สด และสินค้าอื่น ๆ อีกมากมาย 

ยิ่งมีใบชาเมล็ดกาแฟให้ได้เลือกใช้กันมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งช่วยให้ทางร้านสามารถรังสรรค์เมนูเครื่องดื่มได้มากยิ่งขึ้น ยิ่งทางร้านมีเมนูเครื่องดื่มเยอะก็จะยิ่งช่วยเพิ่มความประทับใจให้กับลูกค้าได้ เพราะมาซื้อเครื่องดื่มแค่ร้านเดียวก็เลือกดื่มได้ทั้งเมนูกาแฟ เมนูชา หรือเมนูปั่นต่าง ๆ ส่วนร้านไหนที่อยากได้สูตรชงเมนูต่าง ๆ ก็สามารถคลิกดูสูตรชงชาของเราได้เลย มีทั้ง สูตรชงชาถุงกระดาษ นมหมีโกโก้ นมสดบลูพาราไดซ์ ชาพีชครีมชีส ชาไต้หวันสตรอว์เบอร์รี่ ชาเขียวใสมะนาว รวมเมนูนมชมพูเมนูโกโก้ โกโก้ลาวา ชาอัญชัน กาแฟมัทฉะ
นมสดบราวน์ชูการ์ และสูตรเครื่องดื่มเย็น ๆ อีกมากมาย 

นอกจากการรังสรรค์เมนูเครื่องดื่มอย่างหลากหลายแล้ว เจ้าของร้านควรต้องหากลยุทธ์การขายด้วย เพราะในปัจจุบันนี้คู่แข่งร้านกาแฟร้านชาไข่มุกนั้นมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นการหาจุดขายที่แปลกใหม่ การหาวิธีเพิ่มยอดขายจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ สำหรับใครที่กังวลก็สามารถคลิกอ่านบทความเพิ่มเติมของเราได้ มีทั้งเทคนิคการเปิดร้านกาแฟออนไลน์
การเพิ่มช่องทางการชำระเงินเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าต่าง ๆ  การเพิ่มเมนูทานเล่นในร้านกาแฟสำหรับรองท้อง เพิ่มโปรโมชั่นร้านกาแฟดึงดูดลูกค้าทั้งใหม่และเก่า และเทคนิคดี ๆ อีกมากมาย สามารถนำไปปรับใช้กับร้านของคุณกันได้เลย

สินค้าอื่น ๆ

ดูเพิ่มเติม <<

Similar Posts