เรื่องราวของ

“เจ้ซังบาริสป้า” แม่ค้ากาแฟ Small Talk สู่ Tiktoker เงินหมื่น ใคร ๆ ก็ปังได้!

“เจ้ซังบาริสป้า” เจ้าของร้านกาแฟเล็ก ๆ “Small Talk Coffee” ซึ่งตั้งอยู่ ณ จังหวัดเชียงใหม่ ข้างวัดสันติธรรม ร้านกาแฟแห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่สถานที่จิบกาแฟ แต่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวความฝัน ความมุ่งมั่น และการเติบโตในโลกธุรกิจกาแฟที่ยาวนานถึง 10 ปี

Advertisements
Table of contents (สารบัญ)
จาก-บาริสต้า-สู่-เจ้ซังบาริสป้า

จาก “บาริสต้า” สู่ “เจ้ซังบาริสป้า” ชื่อที่ใคร ๆ ก็จำได้

เมื่อเอ่ยถึงชื่อ “เจ้ซังบาริสป้า” หลายคนอาจจะคุ้นหูกับชื่อช่อง TikTok ที่กำลังมาแรง แต่รู้หรือไม่ว่าชื่อนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร? เจ้ซังเล่าด้วยรอยยิ้มว่า “ซังกำลังทำช่อง Tiktok ก็เลยอยากจะมีชื่อช่องที่มันเรียกง่ายแล้วก็ติดหู ก็เลยเปลี่ยนชื่อจากบาริสต้าทั่วไป เป็น “เจ้ซังบาริสป้า” เพราะว่าเราเป็นบาริสต้าที่เป็นผู้หญิง แล้วก็วัยใกล้จะ 40 แล้ว เป็นคุณป้าแล้วก็เลย เป็น “เจ้ซังบาริสป้า” ชีวิตของเจ้ซังไม่ได้มีเพียงแค่บทบาทของ “เจ้ซังบาริสป้า” เท่านั้น มีบทบาทอันอื่นอีก “เป็นคุณแม่ลูกสอง” และธุรกิจร้านข้าวแกงที่บริหารร่วมกับครอบครัว แต่เจ้ซังยังคงไม่ทิ้งความฝันอย่างร้านกาแฟ “Small Talk Coffee” ด้วยความรักและความหลงใหลของกาแฟ 

จุดเริ่มต้นจาก “ร้านข้าวแกง” สู่ “ร้านกาแฟ”

อะไรคือปัจจัยที่ทำให้เจ้ซังตัดสินใจเปิดร้านกาแฟ ณ มุมวัดสันติธรรมแห่งนี้ ? เจ้ซังย้อนความหลังถึงจุดเริ่มต้นเมื่อ 10 ปีก่อนว่า “เมื่อ 10 ปีที่แล้วเราเปิดร้านข้าวแกง ก่อนที่จะเปิดร้านกาแฟ และเราก็สำรวจรอบ ๆ ว่าแถวนี้ไม่มีร้านกาแฟ ร้านกาแฟน้อย แล้วก็ประจวบกับว่าตรงนี้มันเป็นมุมพอดี ติดถนนด้วยคนเดินไปเดินมา แล้วร้านข้าวแกงเราไม่มีเครื่องดื่ม ก็เลยคิดว่าตรงนี้น่าจะเหมาะกับทำร้านกาแฟ ก็เลยเปิดเป็นร้านกาแฟขึ้นมาแบบนี้เลย” จากการทำธุรกิจร้านข้าวแกง กลายเป็นการสำรวจพื้นที่และการมองเห็นโอกาสในธุรกิจร้านกาแฟ ด้วยทำเลที่ตั้งที่เอื้ออำนวย “เล็งเห็นถึงความต้องการในย่านนั้น จึงเป็นจุดเริ่มต้นสร้างร้านกาแฟ Small Talk Coffee” ส่วนตัวร้านกาแฟ เจ้ซังได้เผยว่า “เนื่องจากเป็นผู้ที่ชื่นชอบงานไม้เป็นทุนเดิม ทางร้านจึงเลือกใช้วัสดุไม้ในการก่อสร้างร้าน โดยโครงสร้างร้านที่เป็นซุ้มขนาด 3×3 เมตรนั้น ใช้วัสดุไม้ทั้งหมด”

เจ้ซังบาริสป้า จุดเริ่มต้นจากร้านข้าวแกง-สู่ร้านกาแฟ

ความเปลี่ยนแปลงในรอบ 10 ปี จากมือใหม่ สู่ความเข้าใจลูกค้าอย่างมืออาชีพ

เมื่อก้าวเข้าสู่ร้านกาแฟ Small Talk ในวันนี้ยังคงเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตามหากมองย้อนกลับไปในช่วงเริ่มต้นเมื่อ 10 ปีก่อน “เจ้ซังบาริสป้า” เจ้าของร้านกาแฟแห่งนี้เผยว่า มีหลายสิ่งได้เปลี่ยนแปลงและพัฒนาไปตามกาลเวลา จากเครื่องชงกาแฟขนาดเล็ก สู่เครื่องชงกาแฟระดับมืออาชีพสองเครื่อง รวมถึงการพัฒนาเมนูเครื่องดื่มที่หลากหลายขึ้น สะท้อนถึงการเติบโตและความใส่ใจในการพัฒนาคุณภาพของร้าน Small Talk อย่างไม่หยุดนิ่ง ยิ่งในปัจจุบันที่ร้านกาแฟเกิดขึ้นมากมาย จึงไม่สามารถหยุดพัฒนาเพื่อต้องแข่งขันในธุรกิจนี้

ไม่หยุดพัฒนา และหาวิธีการรับมือกับคู่แข่งที่เพิ่มขึ้น

เมื่อถามถึงวิธีการจัดการกับคู่แข่งที่เพิ่มขึ้น เจ้ซังเผยกลยุทธ์ที่ไม่เหมือนใคร “สำหรับตัวเอง คู่แข่งก็ไม่ค่อยกลัวเท่าไหร่ เพราะว่าเรารู้สึกว่าเราขายความเป็นตัวเอง เรามีจุดยืนของเรา ก็คือเราขายเอง แล้วเราก็ค่อนข้างจะมั่นใจว่าวัตถุดิบที่เราใช้ค่อนข้างดี”

ความมั่นใจในเอกลักษณ์และคุณภาพของสินค้า คือหัวใจสำคัญในการรับมือกับการแข่งขันของร้าน Small Talk เจ้ซังเชื่อมั่นในการสร้างความแตกต่างด้วย “ความเป็นตัวเอง” และการรักษามาตรฐานของวัตถุดิบ “ไม่ค่อยกลัวร้านอื่นที่มาเปิดแข่ง แต่ถ้าเป็นร้านที่แบรนด์ใหญ่ ๆ มาอยู่ใกล้ ๆ ก็มีสั่น ๆ บ้าง” อย่างไรก็ตาม ความกังวลต่อแบรนด์ใหญ่ก็เป็นเพียงเล็กน้อย เพราะเจ้ซังยังคงเชื่อมั่นในจุดแข็งของร้านตนเอง

ฝ่าวิกฤตยอดขายตกต่ำ เปิดร้านสม่ำเสมอ บริหารจัดการวัตถุดิบอย่างมีประสิทธิภาพ

แม้ธุรกิจร้านกาแฟ Small Talk จะประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง แต่ก็มีช่วงเวลาที่ยอดขายตกต่ำเช่นกัน “แต่ว่าช่วงนั้นน่ะ ช่วงนั้นที่พี่อยู่มาได้ เพราะว่ามันมีลูกค้าประจำ ช่วงนั้นน่ะยอดมันน้อยลงก็จริง แต่ว่าพี่ไม่ได้เหลือกำไรถึงพี่เลยนะ เพราะตอนนั้นพี่มีลูกน้อง ไม่มีกำไรถึงพี่เลย ขอแค่ keep ลูกน้องไว้ให้ได้ แล้วก็ให้เงินมันหมุนในร้านได้” การประคับประคองธุรกิจให้อยู่รอด และรักษาการจ้างงานพนักงาน คือเป้าหมายหลักของร้าน Small Talk “ถ้าถามว่าช่วงที่วันที่มันขายไม่ดีเงียบ ๆ อ่ะ คือยังไง คุณก็ห้ามปิดร้าน เอางี้ดีกว่า วันที่มันเงียบก็คือต้อง เราก็รับสภาพไปว่า โอเควันนี้มันเงียบนะ มันเงียบแล้วก็ต้องมาบริหารวัตถุดิบของเรา อันไหนมันใกล้จะเสีย หรือว่ามันเริ่มสุก อย่างพวกผลไม้พวกเนี้ย โอเคพี่ก็ต้องมาดูว่าอันไหนที่สามารถเก็บได้ บางอย่างเราต้องเหมือนกับบริหารวัตถุดิบ ในวันที่มันขายไม่ดีใช่ไหม ยังไงอีก ช่วงนี้ก็พยายามเปิดร้านทุกวัน พยายามไม่หยุดบ่อย ให้ลูกค้าเขาจดจำไม่ได้ว่าเราอ่ะอยู่ตรงนี้ เราอยู่ตรงนี้ เปิดวันไหนถึงวันไหน อะไรอย่างนี้ประมาณนี้” ในช่วงที่ยอดขายไม่ดี การบริหารจัดการวัตถุดิบอย่างมีประสิทธิภาพ และการเปิดร้านอย่างสม่ำเสมอ จึงเป็นกลยุทธ์สำคัญในการประคองธุรกิจร้านกาแฟให้ผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้

ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าที่มากขึ้น

แต่เมื่อเวลาผ่านไป ร้าน Small Talk ก็เริ่มเป็นที่รู้จักและขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มนักท่องเที่ยว “แต่ว่าช่วงหลังนี้ ลูกค้าตอนนี้เป็นนักท่องเที่ยวซะส่วนมาก ดังนั้นลูกค้าตอนนี้เราก็มุ่งเป้าไปที่ลูกค้าที่เป็นคนพื้นที่ด้วย แล้วก็เป็นลูกค้าต่างชาติด้วย” การเปลี่ยนแปลงกลุ่มลูกค้า ทำให้ร้าน Small Talk ต้องปรับกลยุทธ์เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น “ก็คือเราพยายามเสริมเมนูที่เป็นให้ชาวต่างชาติด้วยประมาณนึง อย่างเช่นถ้าแพ้นมวัว เราก็จะมีเมนูพวกนมถั่ว เป็นนมถั่วที่เป็นนมทางเลือกให้เขา”

การทำความเข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้า กลายเป็นหัวใจสำคัญในการบริหารร้าน Small Talk ในปัจจุบัน การปรับตัวและพัฒนาเมนูให้ตอบโจทย์ลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจและความเข้าใจในความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริงของร้าน Small Talk สำหรับเมนูที่ครองใจลูกค้าประจำของร้าน Small Talk เจ้ซังกล่าวว่า “เมนูที่ลูกค้าสั่งประจำ ก็คงหนีไม่พ้นพวกอเมริกาโน่กับเอสเพรสโซ่นะคะ ถ้าเป็นต่างชาติจะเป็นกาแฟร้อนค่ะ ก็เป็นอเมริกาโน่เหมือนกัน ก็คืออันดับ 1 เลย The Best เลย”

เจ้ซังบาริสป้า ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าที่มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ร้าน Small Talk ก็ไม่เคยหยุดนิ่งในการพัฒนาเมนูใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย อย่างไรก็ตาม เมื่อต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้น ร้าน Small Talk จึงจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ “แต่ว่าตอนหลังอ่ะพอวัตถุดิบมันขึ้น แทนที่เราจะปรับราคาขึ้น เราก็ตัดเรื่องของโปรโมชั่นออก ก็เลยช่วงหลังเลยไม่ได้ทำโปรโมชั่นอะไร” เพื่อรักษาราคาสินค้าให้คงที่

จุดเริ่มต้นบน TikTok จากความขี้อาย สู่ Tiktoker เงินหมื่น

TikTok กลายเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่ทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อสำหรับร้านกาแฟเล็ก ๆ ริมวัดสันติธรรมแห่งนี้ “ลูกค้าจากต่างจังหวัดก็มาหา เพื่อน ๆ ในเชียงใหม่ แม้แต่ละแวกใกล้กันเนี่ย ก็บางคนก็ไม่เคยเห็นร้านเราเลย เพราะเราปิดบ่อยมาก 14:00 น. ก็เก็บแล้ว บางคนตื่นเที่ยง กว่าจะออกบ้านผ่านร้านเราคือปิดแล้ว ไม่รู้ว่าร้านเราขายอะไร” ด้วยเวลาเปิดปิดร้านที่ค่อนข้างเร็ว ทำให้ลูกค้าบางกลุ่มอาจไม่เคยสังเกตเห็นร้าน Small Talk มาก่อน “แต่พอเราทำ TikTok ก็กลายเป็นคนรู้จักมากขึ้นแล้ว ก็แวะมาอุดหนุนกันเยอะขึ้น”

เบื้องหลังความสำเร็จบน TikTok ของ “เจ้ซังบาริสป้า” เริ่มต้นจากความตั้งใจที่จะหารายได้เสริมและใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ “TikTok พี่น่าจะเริ่มสักครึ่งปีที่แล้ว ด้วยความที่ว่าหนึ่งพี่คิดว่าอยากจะเพิ่มรายได้อะไรสักช่องทางนึง ผ่านช่วงเวลาที่พี่ทำงาน แบบเหมือนกับคิดว่าขณะที่เราขายกาแฟอยู่เนี่ย เราสามารถทำอะไรได้ อะไรเพิ่มได้ไหม เป็นแบบในช่วงเวลาเดียวกัน ก็เลยคิดว่า TikTok น่าจะตอบโจทย์ที่สุด ก็เลยลองทำดู”

จากความไม่คุ้นเคยและประหม่าในตอนแรก “จริง ๆ แล้วเป็นคนขี้อายมาก” แต่ด้วยความมุ่งมั่นและเปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เจ้ซังก็ก้าวข้ามอุปสรรคและสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่โดนใจผู้ชม TikTok ไม่เพียงแต่เป็นช่องทางสร้างรายได้เสริม แต่ยังเป็นพื้นที่ให้เจ้ซังได้ค้นพบศักยภาพใหม่ ๆ ของตนเอง และสร้างความสนุกสนานในการทำงานอีกด้วย 

คอนเทนต์หลักบน TikTok ช่อง “เจ๊ซังบาริสป้า” มุ่งเน้นไปที่การแบ่งปันความรู้และเทคนิคการชงกาแฟ “คอนเทนต์ TikTok พี่จะเน้นไปทางการสอนชงกาแฟ สอนชงเครื่องดื่มส่วนมาก เพราะว่าพี่มองว่ามีคนที่เปิดร้านกาแฟหลาย ๆ คน ที่ไม่มีที่ปรึกษาเหมือนพี่เมื่อก่อนเลย” เจ้ซังเล็งเห็นถึงความต้องการของกลุ่มผู้ประกอบการร้านกาแฟมือใหม่ ที่อาจขาดแคลนความรู้และคำแนะนำในการเริ่มต้นธุรกิจ จากประสบการณ์ตรงที่เคยเป็นมือใหม่ในวงการกาแฟ เจ้ซังเข้าใจถึงความยากลำบากและอุปสรรคต่าง ๆ ที่ผู้เริ่มต้นต้องเผชิญ “แต่ก็พอมาทำแล้วก็ เออ ก็ดี ได้เงินด้วย แล้วก็ละลายพฤติกรรมการเขินอายไปหมดเลย ก็สนุกดีนะทำ TikTok”

ตั้งแต่เข้ามาทำ TikTok มีความเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง ? 

“ต้องบอกว่าเปลี่ยนแปลงเยอะมาก จากที่พี่ความรู้น้อยมาก ก็อาศัยประสบการณ์การขายและคุยกับลูกค้า แล้วก็เช็คความถูกต้องเลยเรื่อย ๆ ก็เช็คในทั้งในออนไลน์ จากการไปเรียนด้วย รู้จักการถามลูกค้าด้วย” การก้าวเข้าสู่โลก TikTok สร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญให้กับ “เจ้ซังบาริสป้า”แม้จะไม่มั่นใจในความรู้ของตนเองอย่างเต็มร้อย แต่ด้วยประสบการณ์การเปิดร้านกาแฟมายาวนาน และการเรียนรู้จากลูกค้าที่หลากหลาย การพูดคุยและแลกเปลี่ยนความรู้กับลูกค้า กลายเป็นแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญของเจ้ซัง จากการทำ TikTok เจ้ซังได้ตระหนักว่า ความรู้เรื่องกาแฟที่ถูกต้องและเป็นสากลนั้นยังไม่แพร่หลายในวงกว้าง “ดังนั้นอันนี้พี่ว่าถ้ามีคนที่มีความรู้แล้วมาแชร์ต่อ ๆ กันนี้ก็ดีนะ เพื่อนจะได้รู้ แล้วก็จะได้เสิร์ฟกาแฟให้ถูกต้องด้วย เวลาต่างชาติมาเขาก็จะรู้สึกว่า เฮ้ย คนไทยอ่ะมีความเชี่ยวชาญ เก่งเรื่องกาแฟนะ ทุกร้านอ่ะเสิร์ฟเก่ง เสิร์ฟได้เหมือนกันหมด สั่งปุ๊บเหมือนกันหมด ไม่ใช่ว่าไปร้านนี้แล้วอ่ะ ร้านนี้สั่งเอสโซ่ ร้านนี้ทำแบบให้เขา 2 Shot 3 Shot อะไรอย่างเงี้ยมันก็มี” ด้วยความตั้งใจที่จะแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ให้กับผู้อื่น เจ้ซังจึงมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ TikTok ที่มีคุณภาพและเป็นประโยชน์ต่อสังคมคนรักกาแฟและประสบการณ์ให้กับผู้อื่น เจ้ซังจึงมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ TikTok ที่มีคุณภาพและเป็นประโยชน์ต่อสังคมคนรักกาแฟ

Advertisements

แบ่งปันสูตร ไม่หวงวิชา แนวคิด “ให้” ที่ยั่งยืน

แม้จะมีผู้คนเรียกร้องให้ “เจ๊ซังบาริสป้า” เปิดคอร์สสอนชงกาแฟ หรือขายสูตรลับเฉพาะของร้าน แต่เจ้ซังกลับเลือกที่จะแบ่งปันความรู้และเทคนิคต่างๆ ผ่านช่อง TikTok โดยไม่ปิดบัง “ทำไมเลือกที่จะแจกสูตร แจกเทคนิคร้านกาแฟ ไม่หวงสูตร? จริง ๆ หวงวิชาไหม จริง ๆ ก็หวงนะ” เจ้ซังยอมรับว่ามีความรู้สึกหวงแหนความรู้และเทคนิคที่สั่งสมมาอยู่บ้าง “แต่มามองอีกมุมนึงก็รู้สึกว่าจะหวงไว้ทำไม เอามาสอนเพื่อนดีกว่าแล้ว คือว่ากาแฟมันวิธีทำแม่งมันเยอะมาก มันเยอะมาก แล้วแบบว่าต่อให้พี่สอนสูตรให้เป็นเพื่อน น่ะเพื่อนเอาไปทำก็คงไม่เหมือนพี่ร้อยเปอร์เซ็นต์”

“ดังนั้นพี่เลยไม่ห่วงสูตร ที่คิดว่าเรียกว่ายังไงดี เป็นการแชร์ให้เพื่อนแล้วกัน ถ้าเพื่อนไปต่อยอดได้ เพื่อน ๆ ประสบความสำเร็จ พี่มีความสุขมากกว่าอีก” การแบ่งปันความรู้และเทคนิคต่าง ๆ จึงเป็นการ “ให้” ที่ยิ่งใหญ่กว่าการ “หวง” ไว้แต่เพียงผู้เดียว เพราะความสำเร็จของเพื่อนร่วมวงการ ก็คือความสุขและความภาคภูมิใจของ “เจ้ซังบาริสป้า” เช่นกัน

เจ้ซังมองว่า เอกลักษณ์ของแต่ละร้านกาแฟไม่ได้อยู่ที่สูตรลับเพียงอย่างเดียว “เพราะว่ากาแฟมันไม่ได้แค่ว่าสูตรเหมือนกันนะ มันอยู่ที่หลายอย่าง มันอยู่ที่ทำเล มันอยู่ที่การพรีเซนต์บอกลูกค้าด้วย” ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จของร้านกาแฟมีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นทำเลที่ตั้ง การบริการ และการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า

TikTok สร้างรายได้เกินคาด จากคลิปสอน สู่รีวิวสินค้า

นอกเหนือจากการสร้างสรรค์คอนเทนต์ให้ความรู้แล้ว ช่อง TikTok “เจ๊ซังบาริสป้า” ยังเป็นช่องทางสร้างรายได้เสริมที่น่าสนใจอีกด้วย “การทำ TikTok นอกจากทำคลิปทำอะไรอีกไหม? พี่ก็มีทำคลิปขายแลกเงิน ทำคลิปสอน แล้วตอนหลังก็มาทำคลิปบ้าง แล้วก็มีคนมาจ้างให้ทำเป็นรีวิว มีคนมาจ้างบ้างยังไม่เยอะ หลัก ๆ ก็ประมาณนี้ค่ะ เน้นติดตะกร้า” รูปแบบคอนเทนต์สร้างรายได้บน TikTok ของเจ้ซังมีหลากหลาย ทั้งการขายสินค้า การทำคลิปสอน และการรับรีวิวสินค้า

“รายได้ดีไหม ถือว่าเกินความคาดหวังแล้วกัน มันอาจจะยังไม่ได้แบบว้าวมาก เพราะว่าพี่ก็ไม่ได้ขยันขนาดนั้น แต่ว่าถ้าขนาดว่าไม่ขยัน ไม่ขยันไลฟ์ ไม่ได้ขยันทำคลิป พี่มีรายได้ประมาณนี้ ประมาณแบบเดือนที่แล้วพี่ได้หมื่นนิด ๆ พี่ว่าว้าวมากเลยนะ”

แม้จะไม่ได้ทุ่มเทเวลาให้กับการทำ TikTok อย่างเต็มที่ แต่รายได้ที่ได้รับก็ยังคงเกินความคาดหมาย “พี่ก็ไม่คิดว่าจะทำอะไรได้จากมันได้ขนาดนี้ เพราะตอนแรกที่พี่ทำอ่ะแค่หลักร้อย พี่ก็ตกใจแล้วอ่ะ ตอนนี้มันถึงเป็นหมื่นแล้วอ่ะ เฮ้ย สุดยอดนะ เกินคาดเกินคาด” จากรายได้หลักร้อย สู่หลักหมื่นบาทต่อเดือน TikTok กลายเป็นช่องทางสร้างรายได้เสริมที่สำคัญอีกช่องทางหนึ่งของ “เจ๊ซังบาริสป้า”

“อยากฝากบอกอะไรกับคนที่มีช่อง tiktok แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง? เริ่มเลย ไม่ต้องเขินอายใด ๆ คุณขึ้นมาเลย” ความกล้าที่จะเริ่มต้น คือก้าวแรกสู่ความสำเร็จบน TikTok “พี่ว่าหลักการง่าย ๆ ของการทำ tiktok ออกมาคือการให้ ให้ก่อน ถ้าคุณไม่รู้ว่าคุณจะทำ tiktok Content อะไร แค่ Content การให้ การสอน ก็กลับมามองตัวเองว่าเรามีของอะไร ที่พอจะให้ได้บ้าง ให้ไปก่อนนะ อย่างที่พี่ให้”

หลักการ “ให้” คือหัวใจสำคัญของการสร้างสรรค์คอนเทนต์บน TikTok

จริง ๆ มีคนเรียกร้องให้พี่ทำของมาขาย อย่างเช่นสูตร หรืออะไรอย่างนี้ ขายกาแฟของนี่แหละ แต่ว่าพี่ไม่ทำนะ เพราะว่าพี่ไม่ว่างจริง ๆ แต่คือเมื่อก่อนพี่ไม่ได้คิดว่าพี่จะขายอะไรได้ แต่พี่แค่คิดว่าตอนที่ทำอ่ะ พี่แค่คิดว่าพี่อยากจะให้คนรู้จักร้านพี่เพิ่ม พี่อยากจะเพิ่มช่องทางการขายเพิ่มแค่นั้นเอง” การเริ่มต้นทำ TikTok ของเจ้ซังไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อขายสินค้าหรือสร้างรายได้ในทันที แต่เริ่มต้นจากการ “ให้” ความรู้และประสบการณ์ เพื่อสร้างคุณค่าให้กับผู้ชม

เจ้ซังบาริสป้า หลักการให้ คือหัวใจสำคัญของการสร้างสรรค์คอนเทนต์บน TikTok

“แต่ว่าพอวันนี้เพราะเราได้เริ่มทีละนิด ทีละนิด ช่องทางโอกาสมันจะเริ่มขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นถ้าวันนี้ถามว่าคนที่ยังไม่กล้า live นะ พี่คิดว่าคุณไม่ต้องคิดเยอะ คุณคิดเยอะไง คุณเลยไม่ได้ live สักที ไม่ต้องคิดเยอะ เปิดกด start กด live เลย แล้วก็คิดแค่ว่าจะให้อะไรแค่นั้นแหละ พูดไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวจะมีคนมาถามคุณ แล้วคุณก็จะเริ่มรู้แล้วว่าคุณจะให้อะไรต่อ ใช่แค่มือถือเครื่องเดียว”

อยากฝากอะไรให้กับคนที่กำลังอยากเปิดร้านกาแฟ และสร้างรายได้เสริม ?

“พี่ไม่แนะนำให้เราคิดว่าวันนี้เราจะเปิดร้านกาแฟนะ พี่แนะนำว่าให้เราลองไปดูทำเลก่อน ว่าตรงนั้นไม่มีอะไร ถ้ามันไม่มีร้านกาแฟ แล้วเราค่อยเปิดดู หรือมันไม่มีอะไร เราถึงค่อยเปิด แล้วเราค่อยไปดูว่าเราจะทำอะไรได้บ้าง แต่ถ้าสำหรับคนมีทุนพูดยังไงดี เดี๋ยวนะ เอาไอเดียเล็ก ๆ ก่อนแล้วกัน สำหรับคนทุนน้อยไปดูก่อนว่าทำได้ ถ้าจะเปิดอ่ะ มันมีร้านกาแฟหรือยัง ถ้ามันยังไม่มี โอเค เราเปิด ทีนี้เราก็ไปดูเลยว่าเรามีงบเท่าไหร่ กาแฟมันเริ่มตั้งแต่หลักพันได้เลย ขอแค่มีใจ” สำหรับผู้ที่มีทุนน้อย เจ้ซังแนะนำให้เริ่มต้นจากเล็กๆ และสำรวจทำเลที่ตั้งก่อน

“เริ่มจากใจก่อนนะ อย่าให้เงินมาเป็นตัวที่กำหนดว่าเราจะทำได้หรือไม่ได้ เราต้องใช้ใจก่อน ใช้ไอเดียก่อน” หัวใจสำคัญของการเริ่มต้นธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นร้านกาแฟ หรือธุรกิจอื่น ๆ คือ “ใจ” และ “ไอเดีย” มากกว่า “เงินทุน”

ดังนั้นไม่มีอะไรจะจำกัดไอเดียของเราได้ ยกเว้นถ้าเรามีใจให้เราจะทำ งบเท่าไหร่งบตั้งแต่หลักร้อย หลักพัน เราทำได้ ขอแค่วันนี้เราต้องลุกขึ้นมาทำ แล้วเราต้อง เราก็ต้องไปกับมัน เรา เราก็ต้องไปหาไอเดีย ไปลงพื้นที่ไปดูดิว่าวันนี้เราจะทำกับมันได้ ได้ยังไง ต่อให้เรามีงบน้อย เราก็ทำแบบงบน้อย เรามีงบเยอะ เราก็ทำให้มันใหญ่ขึ้นมาหน่อย แต่สิ่งที่เราต้องทำคือเลยคือวันนี้คือต้องใช้ใจ ต้องใช้ความเชื่อของเราอ่ะ เออ แล้วก็ออกมาค่ะ ออกมาทำสักอย่างนึงได้แล้ว” สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ “ใจ” และความกล้าที่จะ “ลงมือทำ” ไม่ว่าจะมีงบประมาณมากหรือน้อย หากมีใจรักและมุ่งมั่นที่จะทำธุรกิจให้สำเร็จ ก็ย่อมมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จได้เช่นกัน

“วันนี้คุณจะเอาโต๊ะตัวเดียวไปกาง ผ้าปู วางโมก้าพอท ใช่ไหม ขายแค่อเมริกาโน่อย่างเดียว ก็มีคนเปิดมาแล้ว ธุรกิจร้านกาแฟ ไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นด้วยเงินทุนมหาศาล หรืออุปกรณ์ครบครัน”

ฝากร้าน ฝากช่อง ร้านกาแฟ Small Talk Coffee และติดตาม “เจ๊ซังบาริสป้า”

เจ้ซังไม่ลืมที่จะฝากร้านกาแฟ Small Talk และช่อง TikTok “เจ๊ซังบาริสป้า” ให้ผู้ที่สนใจได้ติดตามและสนับสนุนช่อง TikTok ของเจ้ซังไม่ได้เป็นเพียงช่องทางโปรโมทร้าน แต่ยังเป็นพื้นที่แบ่งปันความรู้และประสบการณ์ให้กับผู้ที่สนใจในวงการกาแฟ

“เปิดร้านกาแฟ มันเหนื่อยนะเพื่อน ๆ มันเหนื่อยนะกับมัน ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่มันทำไม่ยาก แต่มันจะทำให้มันขายดี มันจะทำให้มันอยู่ได้อ่ะยาก”

ก็อยากให้เพื่อน ๆ ที่มีความฝันอยากจะเปิดร้านกาแฟเล็ก ๆ ลองมาดูพี่เป็นตัวอย่างว่า เราพอจะทำได้ไหม เราคิดว่าเราไหวหรือเปล่า ร้านพี่อยู่จังหวัดเชียงใหม่นะคะ ชื่อร้าน Small Talk ถ้าหาร้านพี่ไม่เจอ เสิร์ชวัดก่อนเลย ชื่อวัดสันติธรรม แล้วพี่อยู่ฝั่งเดียวกับวัดเลย ร้านพี่อยู่ติดถนน หาง่ายมาก เจอวัดเจอร้านแน่นอน “ก็อยากฝากให้เพื่อน ๆ ใครผ่านมาเชียงใหม่มาเที่ยว ก็แวะมาเที่ยวหาพี่ที่ร้านได้นะคะ มีกาแฟสด แล้วก็ผลไม้ปั่นสดพร้อมเสิร์ฟในราคาเป็นมิตร”

“ซัง” เจ้ซังบาริสป้า เจ้าของร้าน Small Talk Coffee ข้างวัดสันติธรรมเชียงใหม่
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 09.00 – 14.00 น.
พิกัดร้าน : https://maps.app.goo.gl/DMnRsQBRRhR9dX7WA

ผู้เขียนบทความชา กาแฟ

WRITTEN BY

Keeratiyanut C.

ชีวิตจิตใจมอบให้แด่ชาและการบริการ แถมเป็นทาสแมวที่หลงรักแมวทุกตัวบนโลกใบนี้ จินตนาการสูงส่ง และชอบทุกความท้าทายพร้อมเผชิญกับปัญหาทุกสถานการณ์

Similar Posts