วิธีเก็บเมล็ดกาแฟ ให้อยู่ได้นาน คงรสชาติที่ดีของกาแฟ
วิธีเก็บเมล็ดกาแฟ การเก็บเมล็ดกาแฟคั่ว ให้คงกลิ่นหอมคงรสชาติของกาแฟที่ดี ไม่มีรสขม ไม่มีกลิ่นเหม็นหืน เป็นสิ่งที่เจ้าของร้านกาแฟไม่ควรมองข้าม เพราะหากพูดถึงกาแฟ
ก็ต้องนึกถึงกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ นึกถึงรสชาติที่เข้มข้น แต่หากจัดเก็บรักษาไม่ถูกต้อง ก็จะเป็นสาเหตุทำให้เมล็ดกาแฟเสื่อมสภาพนั่นเอง
อย่างที่รู้กันเมล็ดกาแฟจะมีระดับการคั่วกาแฟถึง 3 ระดับ แต่ละระดับก็จะให้กลิ่น รสชาติที่ต่างกันออกไป และเมล็ดกาแฟที่ผ่านการคั่วแล้วโดยเฉพาะการคั่วกลาง คั่วเข้ม จะมีน้ำมันที่เคลือบผิวเมล็ดกาแฟอยู่ จึงทำให้เกิดปฏิกิริยากับสภาพอากาศได้ง่าย ยิ่งกับเมล็ดกาแฟที่คั่วเสร็จใหม่ ๆ จึงต้องระวังอย่างยิ่งในการจัดเก็บ
เมล็ดกาแฟเสื่อมสภาพ โดยหลัก ๆ แล้วเกิดจากปัจจัยอย่าง ความร้อน และความชื้น ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งควบคุมได้ยากหรือไม่สามารถควบคุมได้นั่นเอง ถือเป็นสาเหตุหลัก ๆ ที่จะทำให้เมล็ดกาแฟมีกลิ่นเหม็นหืน กลิ่นหอมของกาแฟลดลง ความเข้มข้นของรสชาติจืดจางลง ฉะนั้นแล้วจึงควรจัดเก็บเมล็ดกาแฟไว้ในที่ไม่มีแสงแดด ไม่มีความชื้น และที่สำคัญคือไม่ควรนำไปวางรวมกับสิ่งของอื่น ๆ ที่มีกลิ่น เพราะเมล็ดกาแฟจะดูดซับกลิ่นต่าง ๆ
วิธีเก็บเมล็ดกาแฟ ให้อยู่ได้นาน
1. เลือกภาชนะที่ควรใช้ในการจัดเก็บเมล็ดกาแฟคั่ว
- ภาชนะที่เป็นถุงฟอยล์ มีซิปล็อกปิดสนิท
การบรรจุในถุงฟอยด์ที่ปิดสนิท จะช่วยป้องกันไม่ให้อากาศภายนอกเข้าไปในภายในถุง และเพื่อไม่ให้เมล็ดกาแฟดูดซับกลิ่นอื่น ๆ
- ภาชนะต้องแห้งสนิท ไม่มีความชื้น
ต้องเลือกใช้ภาชนะที่แห้ง ไม่มีไอน้ำเกาะ หากพึ่งล้างทำความสะอาดเสร็จก้ควรใช้ผ้าแห้งซับน้ำออกจนหมด เพราะหากภาชนะที่ใส่เมล็ดกาแฟมีความชื้น จะทำให้เมล็ดกาแฟเกิดกลิ่นเหม็นหืนได้ง่าย เมื่อนำไปชงก็จะได้รสชาติ และกลิ่นที่เปลี่ยนไปจากเดิม
- ภาชนะเป็นขวดแก้วทึบแสง มีฝาซีลปิดสนิท
เมล็ดกาแฟหากโดนแสงแดด หรืออากาศมากเกินไปจะทำให้มีกลิ่นจางหาย รสชาติจืดจางลงได้ หรือเสื่อมสภาพได้เร็ว ดังนั้นควรเลือกขวดที่ทึบสนิท จะช่วยป้องกันไม่ให้เมล็ดกาแฟโดนแสงแดดโดยตรง หรือสำหรับใครที่ไม่มีขวดแบบทึบ แนะนำให้ใช้กระดาษมาหุ้ม หรือนำไปวางในพื้นที่ที่แสงแดดสาดส่องไม่ถึง
2. เลี่ยงปัจจัยในการกระตุ้นการเสื่อมสภาพของเมล็ดกาแฟ
- อากาศ
เมล็ดกาแฟคั่วที่มีน้ำมันเคลือบผิวกาแฟ หากสัมผัสกับอากาศโดยตรงเป็นระยะเวลานาน จะทำให้กลิ่นหอมของกาแฟระเหย และรสชาติเปลี่ยนไป ฉะนั้นแล้วหากต้องใช้เมล็ดกาแฟคั่ว ให้ตักหรือเปิดใช้กาแฟเท่าที่พอใช้ และควรปิดฝาภาชนะทุกครั้งหลังการเปิดตักกาแฟ ไม่ควรเปิดฝาทิ้งไว้ เพราะจะทำให้เมล็ดกาแฟสัมผัสกับอากาศมากขึ้น ทำให้เสื่อมสภาพได้รวดเร็วยิ่ง และไม่ควรบดกาแฟทิ้งไว้ทีละมาก ๆ เพราะจะเป็นการเพิ่มพื้นที่ให้สัมผัสกับอากาศมากยิ่งขึ้น
- ความชื้น
เมล็ดกาแฟมีคุณสมบัติในการดูดความชื้นและกลิ่นได้ดี ดังนั้นจึงไม่ควรนำเมล็ดกาแฟไปวางในพื้นที่ที่มีวามชื้นมาก ๆ เพราะหากเมล็ดกาแฟดูดซับกลิ่นและความชื้นเหล่านั้นแล้ว จะทำให้รสชาติและกลิ่นที่เปลี่ยนไปจากเดิม จึงไม่ควรที่จะเก็บเมล็ดกาแฟไว้ในตู้เย็น
- แสงแดด
ความร้อน แสงแดด ไม่ว่าจะเป็นจากแหล่งธรรมชาติหรือแม้แต่หลอดไฟ ก็สามารถส่งผลกระทบต่อเมล็ดกาแฟทำให้เก่าเร็วยิ่งขึ้น เช่น บนหลังเครื่องกาแฟ พื้นที่ติดหน้าต่างที่แดดส่องถึง ไม่ควรนำไปวางอย่างยิ่ง
3. ไม่ควรแช่ในช่องแช่เย็นปกติ
การเก็บเมล็ดกาแฟในตู้เย็น ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของหลาย ๆ คน ซึ่งวิธีที่ถูกต้องก็คือ ต้องนำเมล็ดกาแฟไปแช่ในช่องฟรีซหรือช่องแช่แข็งโดยควรแบ่งเป็นซอง และหากนำออกจากช่องฟรีซแล้ว ควรวางในอุณหภูมิห้องปกติก่อน 4-5 ชั่วโมง แล้วค่อยนำไปใช้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดหยดน้ำที่ผิวเมล็ดกาแฟ และควรหลีกเลี่ยงเป็นอย่างยิ่งในการแช่ช่องเย็นปกติ เพราะเมล็ดกาแฟจะดูดซับความชื้น ดูดกลิ่นอาหารที่แช่ไว้นั่นเอง แต่ทั้งนี้แม้ว่าการแช่เมล็ดกาแฟในช่องฟรีซจะช่วยยืดอายุได้ แต่ก็อาจจะทำให้เมล็ดกาแฟสูญเสียคุณภาพไปบางส่วนได้เช่นกัน
สำหรับใครที่สงสัยว่าเมล็ดกาแฟมีวันหมดอายุไหม โดยปกติแล้วเมล็ดกาแฟคั่วจะไม่มีวันหมดอายุ แต่ระยะเวลาก็มีผลโดยตรงต่อคุณภาพและรสชาติของเมล็ดกาแฟอย่างแน่นอน
ดังนั้น แม้ว่าเราจะเก็บเมล็ดกาแฟในภาชนะที่ถูกต้อง การหลีกเลี่ยงปัจจัยต่าง ๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อเมล็ดกาแฟ ที่มีส่วนสำคัญในการช่วยยืดอายุเมล็ดกาแฟนั้น แต่ก็ไม่ควรที่จะเก็บไว้นานจนเกินไป
และนอกจากเมล็ดกาแฟแล้ว ใบชาก็เช่นกัน ควรที่จะเก็บรักษาอย่างถูกวิธี เพื่อป้องกันกลิ่นหอมที่จะระเหย ป้องกันการดูดซับกลิ่นต่าง ๆ รอบข้าง ป้องกันไม่ให้ใบชาเสื่อมสภาพ
หากนำไปชงเครื่องดื่มจะทำให้เครื่องดื่มอร่อยสดชื่นนั่นเอง หรือสำหรับใครที่อยากจะเพิ่มเมนูในร้านเพื่อดึงดูดลูกค้า ก็สามารถเลือกใช้ใบชาของโรงคั่วชาที่มีคุณภาพอย่าง bluemocha เพราะนอกจาหที่เรามีใบชาหลากหลายกว่า 30 รายการ ทั้ง ชาเขียวพรีเมียม ชาแดงโบราณ ชาไต้หวันพรีเมียม ชาพีช ชากระเจี๊ยบ ชาอัญชัน ผงโกโก้ ผงมัทฉะ เป็นต้น ทางเราก็ยังรับผลิตชา OEM เหมาะมากสำหรับใครที่อยากจะสร้างแบรนด์ชาเป็นของตนเอง เปิดร้านชาไข่มุกเล็ก ๆ ก็สามารถมาปรึกษาเราได้เลย
หรือใครที่อยากจะได้สูตรชงเครื่องดื่ม สำหรับรังสรรค์เมนูเครื่องดื่มใหม่ ๆ ให้ลูกค้า ก็สามารถคลิกดูสูตรชงเครื่องดื่มต่าง ๆ ของเราได้เลย เรามีทั้งเมนูนม เมนูใส และเมนูปั่นมากมาย หรืออยากจะได้เทคนิคเกี่ยวกับร้านกาแฟ ร้านชาไข่มุก ทางเราก็มีมาแบ่งปัน ไม่ว่าจะเป็น เทคนิคการชงชาแบบลิตร การต้มชาให้หอมมีรสชาติเข้มข้น การทำท็อปปิ้งเครื่องดื่มเอง อย่าง ซอสท็อปปิ้ง นมเหนียว ไข่มุก วิปปิ้งครีม หรือตลอดจนไปถึงการเพิ่มยอดขายด้วยเมนูอื่น ๆ เช่น เต้าฮวยรสชาติต่าง ๆ ขนมปังสังขยา ใครที่อยากจะมีรายได้มากขึ้น ก็สามารถนำไปปรับใช้กับร้านของคุณได้เลย คลิกดูบทความอื่น ๆ
สินค้าอื่น ๆ