วิธีทำสังขยาชาไทย สังขยาชาเขียว สังขยาใบเตย หอมหวานอร่อย
วิธีทำสังขยาชาไทย สังขยาใบเตย เชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่หลาย ๆ ต้องอยากจะรู้ส่วนผสม รู้วิธีการทำ เพราะถือเป็นเคล็ดลับความอร่อยของขนมปังนึ่ง ขนมปังปิ้ง สำหรับการเปิดร้านเครื่องดื่มกาแฟ ร้านชาไข่มุก หรือแม้แต่ร้านไหนที่ขายนมสด น้ำเต้าหู้ บอกเลยต้องเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการเพิ่มยอดขาย และเป็นตัวดึงดูดลูกค้าเข้าร้านนั่นเอง
สารบัญ
วันนี้ทาง bluemocha เราจึงมี วิธีทำสังขยาชาไทย สังขยาชาเขียว สังขยาใบเตย ฉบับง่าย ๆ ที่ได้เนื้อสังขยาแบบเนียนนุ่ม หอมมัน ไม่มีความเหนียว มาแบ่งปันกัน บอกเลยว่าใครที่อยากทำสังขยาทาขนมปัง สอดไส้ขนมปัง หรือนำไปจิ้มกับขนมปัง ด้วยตัวเองก็สามารถนำวิธีที่เรามาฝากกันนี้ไปลองทำกันดูได้เลย
วิธีทำสังขยาชาไทย
ส่วนผสม
- น้ำชาไทย 250 มิลลิลิตร คลิกดูวิธีทำหัวเชื้อชาไทย
- ไข่แดง 4 ฟอง
- น้ำตาลทรายขาว 150 กรัม
- หัวกะทิ 500 มิลลิลิตร
- เกลือป่นปลายช้อน
- นมข้นหวาน 50 มิลลิลิตร
- แป้งข้าวโพด 60 กรัม
วิธีทำ
- ตอกไข่ 4 ฟอง แล้วแยกไข่แดงใส่ในภาชนะที่ต้องการผสม
- แล้วให้เติมน้ำตาลทรายลงไป ใช้ตะกร้อตีส่วนผสมทั้ง 2 อย่างให้เข้ากันดี
- แล้วเติมเกลือป่น นมข้นหวานลงไป แล้วตีให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน
- จากนั้นเติมหัวกะทิ และน้ำชาไทยตามลงไป แล้วค่อย ๆ ตีจนน้ำตาลทรายละลายและส่วนผสมเข้ากัน
- เมื่อตีส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันแล้ว ให้เติมแป้งข้าวโพดลงไป แล้วค่อย ๆ ตีให้เข้ากันอีกครั้ง
- เมื่อได้ส่วนผสมแล้ว ให้นำมากรองผ่านตะแกรงหรือผ้าขาวบาง 1 รอบ เพื่อให้ได้เนื้อสังขยาที่เนียน
- จากนั้นให้ทำการเทน้ำ ⅓ ของหม้อ นำไปตั้งไฟเตาแล้วใช้ไฟกลาง รอจนน้ำเดือด
- เมื่อน้ำเริ่มเดือดแล้วให้ลดไฟลงเล็กน้อย หรือปรับเป็นไฟอ่อน
- แล้วให้นำภาชนะที่มีส่วนผสมสังขยาอยู่มาวางบนหม้อที่มีน้ำเดือด
- แล้วให้กวนสังขยาไปเรื่อย ๆ ห้ามหยุด จนกว่าจะได้เนื้อสังขยาที่มีความข้นเล็กน้อยเห็นเป็นรอยตะกร้อ แล้วให้ทำการปิดเตาทันที
- เมื่อนำลงจากเตาแล้ว ให้กวนต่อไปเรื่อย ๆ จนสังขยามีความอุ่นลง (หากทิ้งไว้โดยไม่คน จะทำทำให้ได้เนื้อสังขยาที่ไม่เนียนนุ่ม)
- กวนจนเนื้อสังขยาอุ่นลง แล้วจะทำให้ได้เนื้อสังขยาที่ข้นพอดี เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จ

วิธีทำ สังขยาชาไทยไร้แป้ง
เบื่อสังขยาเนื้อเหนียวๆ หยาบๆ กันไหมเอ่ย งั้นมาลองทำ “สังขยาชาไทยไร้แป้ง” ทำสังขยาแบบไม่ใช้แป้งสูตรนี้กัน รับรองว่าได้เนื้อสังขยาเนียนนุ่ม หอมกลิ่นชาไทยแท้ๆ หวานมันกลมกล่อม อร่อยจนวางไม่ลงกันเลยทีเดียวเชียว
หัวใจสำคัญของสังขยาไร้แป้ง ก็คือ ไข่ + กะทิ + การควบคุมไฟ
สังขยาไร้แป้งจะอาศัยความข้นจากโปรตีนในไข่ และความเข้มข้นของกะทิ แทนการใช้แป้ง
ส่วนผสม (สำหรับสังขยาชาไทยไร้แป้ง เนื้อเนียน)
- ผงชาไทย: 4-5 ช้อนโต๊ะ (เลือกชาไทยพรีเมียมยี่ห้อบลูมอคค่า ที่ให้ความหอมเข้มข้น)
- น้ำเปล่าร้อนจัด: 200 ml (สำหรับชงชา)
- ไข่ไก่: 3-4 ฟอง (ใช้ทั้งไข่ขาวและไข่แดง) หรือบางสูตรใช้ไข่เป็ดผสมเพื่อความเข้มข้น
- หัวกะทิ (คั้นสด/กล่อง): 250 ml (เลือกแบบหัวกะทิเข้มข้น)
- น้ำตาลทราย/น้ำตาลมะพร้าว: 1/2 – 3/4 ถ้วยตวง (ปรับลด-เพิ่มได้ตามชอบ)
- เกลือป่น: 1/4 ช้อนชา (ช่วยตัดรสและดึงความหวาน)
- (เสริมกลิ่น/สี): ใบเตย (1-2 ใบ)
วิธีทำสังขยาชาไทย (ไม่ผสมแป้ง) เนื้อเนียนละเอียด
ขั้นตอนที่ 1 ชงชาไทยให้เข้มข้น
- นำผงชาไทยใส่ลงในน้ำร้อนจัด คนให้เข้ากัน พักไว้ 2-3 นาที
- กรองเอาแต่น้ำชา พักให้เย็นสนิท (ถ้าชงทิ้งไว้จะหอมขึ้น)
ขั้นตอนที่ 2 เตรียมส่วนผสมไข่และกะทิ
- ตอกไข่ไก่ใส่ภาชนะ (ถ้าใช้ใบเตย ให้ฉีกใบเตยใส่ลงไปแล้วขยำเบาๆ กับไข่ เพื่อช่วยดับกลิ่นคาวและเพิ่มความหอม)
- ใส่น้ำตาลทราย/น้ำตาลมะพร้าว และเกลือป่นลงไป
- ใช้ตะกร้อคน/ขยำเบาๆ ให้เข้ากัน จนน้ำตาลพอละลาย (ห้ามตีให้ขึ้นฟูเป็นฟอง)
ขั้นตอนที่ 3 ผสมส่วนผสมทั้งหมด
- ค่อยๆ เทหัวกะทิลงไป จากนั้นคนให้เข้ากัน
- ตามด้วยน้ำชาไทยที่เย็นแล้ว คนให้ส่วนผสมทั้งหมดเป็นเนื้อเดียวกัน
ขั้นตอนที่ 4 กรองส่วนผสม (เพื่อความเนียน!)
- นำส่วนผสมสังขยาที่ได้ มากรองผ่านกระชอนตาถี่ๆ อย่างน้อย 2-3 ครั้ง เพื่อให้ได้เนื้อสังขยาที่เนียนละเอียด ไม่มีเศษไข่หรือกากชา
ขั้นตอนที่ 5 กวนสังขยา (ตุ๋น/ตั้งไฟอ่อน)
วิธีที่ 1 (ตุ๋น/อังไอน้ำ – แนะนำสำหรับมือใหม่)
- นำภาชนะที่ใส่สังขยาไปตั้งบนหม้อน้ำเดือดพล่าน (โดยที่ก้นภาชนะไม่แตะน้ำ)
- คนตลอดเวลาด้วยตะกร้อ หรือไม้พาย ใช้ไฟกลางค่อนไปทางอ่อน
- กวนประมาณ 30-45 นาที หรือจนสังขยาเริ่มข้นขึ้น มีลักษณะเป็นครีมเนียนๆ เงาๆ (เมื่อยกตะกร้อขึ้นจะเห็นสังขยาไหลลงมาเป็นสาย)
วิธีที่ 2 (ตั้งไฟโดยตรง – ต้องระวังเป็นพิเศษ)
- ตั้งกระทะเทฟลอน หรือหม้อก้นหนา บนไฟอ่อนมาก
- เทสังขยาลงไป และคนตลอดเวลา ห้ามหยุด ไม่งั้นสังขยาจะไหม้ติดก้น หรือจับตัวเป็นก้อน
- กวนจนสังขยาข้นเหนียวตามต้องการ
ขั้นตอนที่ 6 พักให้เย็น
- เมื่อได้ความข้นที่ต้องการแล้ว ยกลงจากเตา
- พักให้สังขยาคลายร้อน แล้วจึงเก็บในภาชนะปิดสนิท แช่เย็นก่อนเสิร์ฟ
เคล็ดลับสู่สังขยาไร้แป้ง เนื้อเนียนขั้นเทพ!

วิธีทำสังขยาให้อร่อย ต้องทำอย่างไร
- ใช้ไข่สดใหม่ เลือกใช้ไข่ที่สดใหม่ เพราะมีผลต่อเนื้อสัมผัสและกลิ่นคาว
- กะทิต้องเข้มข้น ใช้หัวกะทิแท้ๆ ที่ไม่เจือจาง เพื่อความหอมมันและเนื้อสังขยาที่ข้นสวย
- กรองซ้ำ ยิ่งกรองหลายรอบ สังขยาจะยิ่งเนียนละเอียด
- ควบคุมไฟและคนสม่ำเสมอ นี่คือหัวใจสำคัญของการทำสังขยาไร้แป้ง ไฟต้องอ่อน คนต้องต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ไข่สุกเป็นก้อน
- ปั่นหลังกวน (ไม่บังคับ) เมื่อกวนเสร็จและสังขยาอุ่นๆ บางสูตรอาจนำไปปั่นซ้ำอีกครั้ง เพื่อให้ได้เนื้อที่เนียนละเอียดเหมือนคัสตาร์ด
สังขยาชาไทยไร้แป้ง…ความอร่อยที่ต้องใส่ใจในทุกขั้นตอน แต่ผลลัพธ์ที่ได้ คุ้มค่าแน่นอน
วิธีทำสังขยาชาเขียว
ส่วนผสม
- น้ำชาเขียว 250 มิลลิลิตร คลิกดูวิธีทำหัวเชื้อชาเขียว
- ไข่แดง 4 ฟอง
- น้ำตาลทรายขาว 150 กรัม
- หัวกะทิ 500 มิลลิลิตร
- เกลือป่นปลายช้อน
- นมข้นหวาน 50 มิลลิลิตร
- แป้งข้าวโพด 60 กรัม
วิธีทำ
- ตอกไข่ 4 ฟอง แล้วแยกไข่แดงใส่ในภาชนะที่ต้องการผสม
- แล้วให้เติมน้ำตาลทรายลงไป ใช้ตะกร้อตีส่วนผสมทั้ง 2 อย่างให้เข้ากันดี
- แล้วเติมเกลือป่น นมข้นหวานลงไป แล้วตีให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน
- จากนั้นเติมหัวกะทิ และน้ำชาเขียวตามลงไป แล้วค่อย ๆ ตีจนน้ำตาลทรายละลายและส่วนผสมเข้ากัน
- เมื่อตีส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันแล้ว ให้เติมแป้งข้าวโพดลงไป แล้วค่อย ๆ ตีให้เข้ากันอีกครั้ง
- เมื่อได้ส่วนผสมแล้ว ให้นำมากรองผ่านตะแกรงหรือผ้าขาวบาง 1 รอบ เพื่อให้ได้เนื้อสังขยาที่เนียน
- จากนั้นให้ทำการเทน้ำ ⅓ ของหม้อ นำไปตั้งไฟเตาแล้วใช้ไฟกลาง รอจนน้ำเดือด
- เมื่อน้ำเริ่มเดือดแล้วให้ลดไฟลงเล็กน้อย หรือปรับเป็นไฟอ่อน
- แล้วให้นำภาชนะที่มีส่วนผสมสังขยาอยู่มาวางบนหม้อที่มีน้ำเดือด
- แล้วให้กวนสังขยาไปเรื่อย ๆ ห้ามหยุด จนกว่าจะได้เนื้อสังขยาที่มีความข้นเล็กน้อยเห็นเป็นรอยตะกร้อ แล้วให้ทำการปิดเตาทันที
- เมื่อนำลงจากเตาแล้ว ให้กวนต่อไปเรื่อย ๆ จนสังขยามีความอุ่นลง (หากทิ้งไว้โดยไม่คน จะทำทำให้ได้เนื้อสังขยาที่ไม่เนียนนุ่ม)
- กวนจนเนื้อสังขยาอุ่นลง แล้วจะทำให้ได้เนื้อสังขยาที่ข้นพอดี เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จ
วิธีทำสังขยาใบเตย
ส่วนผสม
- ใบเตย 10-15 ใบ
- น้ำเปล่า 300 มิลลิลิตร
- ไข่แดง 4 ฟอง
- น้ำตาลทรายขาว 150 กรัม
- หัวกะทิ 500 มิลลิลิตร
- เกลือป่นปลายช้อน
- นมข้นหวาน 50 มิลลิลิตร
- แป้งข้าวโพด 60 กรัม
วิธีทำ
- นำใบเตยมาล้างให้สะอาด แล้วตัดใบเตยให้เป็นชิ้นล็ก ๆ
- นำใบเตยใส่โถปั่น แล้วเทน้ำเปล่าลงไป กดปั่นจนละเอียด แล้วให้กรองกากใบเตยออก
- ตอกไข่ 4 ฟอง แล้วแยกไข่แดงใส่ในภาชนะที่ต้องการผสม
- แล้วให้เติมน้ำตาลทรายลงไป ใช้ตะกร้อตีส่วนผสมทั้ง 2 อย่างให้เข้ากันดี
- แล้วเติมเกลือป่น นมข้นหวานลงไป แล้วตีให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน
- จากนั้นเติมหัวกะทิ และน้ำใบเตย 250 มิลลิลิตรตามลงไป แล้วค่อย ๆ ตีจนน้ำตาลทรายละลายและส่วนผสมเข้ากัน
- เมื่อตีส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันแล้ว ให้เติมแป้งข้าวโพดลงไป แล้วค่อย ๆ ตีให้เข้ากันอีกครั้ง
- เมื่อได้ส่วนผสมแล้ว ให้นำมากรองผ่านตะแกรงหรือผ้าขาวบาง 1 รอบ เพื่อให้ได้เนื้อสังขยาที่เนียน
- จากนั้นให้ทำการเทน้ำ ⅓ ของหม้อ นำไปตั้งไฟเตาแล้วใช้ไฟกลาง รอจนน้ำเดือด
- เมื่อน้ำเริ่มเดือดแล้วให้ลดไฟลงเล็กน้อย หรือปรับเป็นไฟอ่อน
- แล้วให้นำภาชนะที่มีส่วนผสมสังขยาอยู่มาวางบนหม้อที่มีน้ำเดือด
- แล้วให้กวนสังขยาไปเรื่อย ๆ ห้ามหยุด จนกว่าจะได้เนื้อสังขยาที่มีความข้นเล็กน้อยเห็นเป็นรอยตะกร้อ แล้วให้ทำการปิดเตาทันที
- เมื่อนำลงจากเตาแล้ว ให้กวนต่อไปเรื่อย ๆ จนสังขยามีความอุ่นลง (หากทิ้งไว้โดยไม่คน จะทำทำให้ได้เนื้อสังขยาที่ไม่เนียนนุ่ม)
- กวนจนเนื้อสังขยาอุ่นลง แล้วจะทำให้ได้เนื้อสังขยาที่ข้นพอดี เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จ
คำแนะนำ
- หากไม่มีหัวกะทิสามารถเลือกใช้กะทิกล่องได้เพื่อความสะดวก แต่จะมีความหอมมันที่น้อย
- หากไม่มีแป้งข้าวโพดสามารถใช้แป้งกวนไส้แทนได้
- ควรเลือกใช้หม้อที่สามารถนำภาชนะที่มีสังขยาอยู่ไปวางได้พอดี โดยที่ตัวภาชนะไม่จมในหม้อ
- ขณะที่กวนสังขยาบนเตา ควรปาดสังขยาที่ติดขอบด้วย เพราะถ้าไม่ปาดจะทำให้ไหม้ได้
- ให้ใช้ไฟกลางค่อนข้างอ่อน หรือไฟอ่อนในการกวนสังขยา ควรกวนหรือคนตลอดวลาจนกว่าจะเริ่มเห็นรอยตะกร้อ แล้วให้ยกลงจากเตาทันที แล้วค่อยนำมาคนต่อจนให้ได้สังขยาที่อุ่นลง (เพราะหากกวนบนเตานานเกินไป จะได้เนื้อสังขยาที่ข้นเมื่อนำมาคนต่ออีกครั้งจะทำให้ได้เนื้อสังขยาที่จับตัวเป็นก้อน)
- สามารถเปลี่ยนส่วนผสมหลักเป็น ชาเขียว น้ำแดง หรือรสชาติอื่น ๆ ได้ตามใจชอบ

เป็นยังไงกันบ้างกับวิธีการทำสังขยาชาไทย สังขยาชาเขียว สังขยาใบเตย ที่ทางเรานำมาฝากกันในวันนี้ หากใครที่อยากจะได้สังขยารสชาติอื่น ๆ ก็สามารถที่จะปรับเปลี่ยนกันได้ทั้งหมดเลย และสำหรับใครที่ต้องการใบชาในการรังสรรค์รสชาติสังขยาอื่น ๆ ก็สามารถเลือกใช้ใบชาชงชาไข่มุกของโรงคั่วชา bluemocha ได้เลย เพราะเรามีใบชาให้เลือกใช้มากกว่า 30 รายการ ทั้งผงชาเขียว ผงโกโก้ ผงชาไต้หวัน ผงมัทฉะ เป็นต้น
และนอกจากวิธีการทำสังขยา เราก็ยังมีวิธีทำเต้าฮวย วิธีทำนมเหนียว วิธีทำครีมชีส ตลอดจนไปถึงการทำไข่มุกเอง การทำฟรุตสลัดผลไม้สด วิธีตีวิปครีม เพื่อนำไปท็อปปิ้งเครื่องดื่ม ช่วยเพิ่มมูลค่าเครื่องดื่ม เพิ่มความน่าลิ้มลอง และช่วยเพิ่มยอดขายในร้านได้มากยิ่งขึ้น
ซึ่งนอกจากวิธีต่าง ๆ ที่กล่าวมาข้างต้นนี้แล้ว เราก็ยังมีเทคนิคอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับร้านกาแฟ ร้านชาไข่มุกอีกมากมาย เช่น การชงชาขวดขาย วิธีการเก็บรักษาชาขวด
การทำเครื่องดื่มแก้วเล็กขายแบบง่าย ๆ การสร้างโปรโมชั่นร้านกาแฟแบบไม่ให้ขาดทุน การเข้าร่วมธุรกิจ Food Delivery การจัดการส่งเครื่องดื่มผ่าน Delivery ยังไงไม่ให้หกเลอะเทอะ และรวมไปถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับวัตถุดิบ อุปกรณ์สำหรับชงกาแฟ ชงชาไข่มุก ไม่ว่าจะเป็น การเลือกหัวบีบวิปครีม การเลือกเครื่องตีฟองนม แนะนำนมสด ครีมเทียม
ผงชงชาไข่มุกหลากหลายยี่ห้อ เพื่อเป็นข้อมูลในการประกอบการตัดสินใจก่อนเลือกซื้อเลือกใช้นั่นเอง
สินค้าอื่น ๆ












