วิธีชงชาให้อร่อย พร้อมเทคนิคการแก้ปัญหาชาจืด ชาฝาด
วิธีชงชาให้อร่อย ไม่จืด ไม่ฝาด ทำยังไงนะ ? “ชาฝาด” ปัญหาที่หลาย ๆ คนคงเจอบ่อยว่าทำไมการชงชาในบางครั้งถึงมีความฝาด รู้สึกเสียรสชาติของชา ยิ่งถ้าลูกค้าได้ดื่มชาฝาด ๆ ก็จะทำให้ไม่ประทับใจในร้านของคุณได้
เชื่อว่าหลายคนคงคุ้นเคยกับการชงชา แต่อาจจะไม่ได้รับรสชาติของชาจริง ๆ น้ำชาที่ดีไม่ใช่เพียงแค่นำใบชาผ่านน้ำร้อน แล้วพักทิ้งไว้ก็จะได้น้ำชาที่ดีแล้ว ตามหลักแล้วการชงชาย่อมมีรายละเอียดที่ลึกซึ้งกว่านั้น กว่าจะได้ชาที่มีรสชาติดี กลิ่นหอม
หัวใจสำคัญของการชงชา คือ ต้องอย่าแช่ใบชานานจนเกินไป
และในวันนี้ทาง bluemocha เราก็มีวิธีชงชาให้อร่อย พร้อมเคล็ดลับเกี่ยวกับการแก้ปัญหาชงชาแล้วจืด ชงชาแล้วฝาด มาแบ่งปันให้กับทุกคน รับรองว่าช่วยแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้อย่างแน่นอน
วิธีชงชาให้อร่อย กับเมนูชามะลิใสสดชื่น ๆ
ส่วนผสม (ขนาดแก้ว 20 ออนซ์)
- ชามะลิใส 10 กรัม
- น้ำร้อน 300 มิลลิลิตร
- น้ำเชื่อม 30 -45 มิลลิลิตร
- น้ำแข็ง
ขั้นตอนการทำ
- นำชามะลิใส แช่ในน้ำร้อน แช่ไว้ 6 นาที จากนั้นให้กรองใบชาออก
- นำน้ำชาที่ได้ไปน็อคน้ำแข็ง จนน้ำชาเย็นจัด (น็อคเพื่อดึงกลิ่นและรสชาติชามะลิออกมา)
- จากนั้นให้นำน้ำชามา ผสมกับน้ำเชื่อมแล้วคนละลายให้เข้ากัน
- ตักน้ำแข็งใส่แก้ว แล้วเทชามะลิลงไปก็เสร็จแล้ว
วิธีแก้ปัญหาชาจืด ชาฝาด
– ปริมาณใบชา และน้ำไม่เหมาะสมกัน
ก่อนที่จะแช่ใบชา ต้องอย่าลืมว่าใบชาแต่ละชนิดมีความเข้มที่ต่างกัน ดังนั้นหากจะแช่ชาในอัตราส่วนที่เท่ากันทั้งหมดก็จะทำให้ได้ความเข้มของชาไม่เท่ากัน เช่น ในอัตราส่วน 1:3 ถ้าเป็นชาที่มีความเข้มน้อยก็จะได้รสชาติที่ไม่ติดฝาด แต่หากใช้ชาที่มีความเข้มมาก แล้วใช้ในอัตรา 1:3 ก็จะทำให้ได้น้ำชาที่มีความฝาดมากขึ้น
วิธีแก้ไขเบื้องต้นที่สามารถทำได้ คือก่อนการแช่ชาต้องรู้ว่าใช้ชาอะไร แล้วต้องใช้น้ำในอัตราส่วนเท่าไหร่ถึงจะได้น้ำชาที่ดี แต่หากได้น้ำชาที่มีความฝาดก็ให้ใช้น้ำร้อนผสมเล็กน้อยเพื่อเจือจาง
– เวลาที่แช่ชาไม่พอดี
รู้หรือไม่ ? เวลาที่แช่ชาสำคัญมาก การแช่ชาทุกครั้งต้องอย่าลืมที่จะกำหนดเวลา และควรกรองชาทันทีเมื่อครบเวลาที่กำหนดไว้ เช่น หากต้องแช่ชาเพียง 3 นาที ก็ควรตั้งเวลาไว้ไม่ควรนับหรือประมาณเวลาเอาเอง เพราะหากกรองชาก่อนเวลาก็จะได้น้ำชาที่จืดจาง สีอ่อน และหากกรองชาเมื่อเกินเวลาที่กำหนดก็จะได้ชาที่เข้ม และมีความฝาด ทำให้รสชาติของชาผิดเพี้ยนได้
ทั้งนี้ แม้ว่าชาจะมีความเข้ม และใช้เวลาที่แช่ชาไม่เท่ากัน แต่ในกรณีที่เป็นใบชาชนิดเดียวกัน แต่หากใช้ในอัตราส่วนที่ไม่เท่ากันก็จะต้องแช่ชาในเวลาที่ไม่เท่ากันด้วย เช่น ใช้ชาในอัตราส่วน 1:3 ก็สามารถที่จะแช่ชาแค่ 1-2 นาที แต่หากใช้อัตราส่วนที่เพิ่มขึ้นเป็น 1:5 ก็จะต้องเพิ่มเวลาเป็นประมาณ 3 นาที แต่หากกรณีที่กรองชาออกมาแล้วติดฝาดมาก ก็ให้ใช้น้ำร้อนผสมเล็กน้อยเพื่อลดความฝาดลง
– การผสมกับวัตถุดิบอื่น
จุดนี้สำคัญมาก ! เพราะเครื่องดื่มที่ร้านต้องเสิร์ฟให้กับลูกค้าไม่ใช่แค่น้ำเปล่า แต่เป็นเครื่องดื่มที่ต้องมีการผสมกับวัตถุดิบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น นม น้ำตาล ครีมเทียม ล้วนแล้วแต่ให้รสชาติ รสสัมผัสที่ต่างกัน และเครื่องดื่มบางเมนูที่ใช้น้ำตาลเพียงอย่างเดียว ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ชาที่เข้ม แต่เครื่องดื่มเมนูไหนที่ต้องผสมนมก็ควรที่จะใช้ชารสเข้มขึ้น
หากร้านมีแต่ใบชาที่มีความเข้ม การเอาไปผสมกับวัตถุดิบที่ต่างชนิดกัน แก้วที่ผสมน้ำตาลอย่างเดียวจะให้ความฝาดมากกว่า ดังนั้นหากจะต้องใช้ชาเข้มผสมกับน้ำตาล ก็ควรลดปริมาณชาลงเพื่อไม่ให้มีความฝาด
– ปริมาณการผสมกับวัตถุดิบอื่น ๆ
ต้องอย่าลืมทุกครั้งว่าใบชาแต่ละชนิด มีกลิ่น รสชาติที่ต่างกัน ใบชาบางชนิดเหมาะที่จะผสมนมมากกว่า เพราะจะชูรสชาติให้ดียิ่งขึ้น แต่ใบชาบางชนิดไม่เหมาะที่จะชงกับนม เพราะกลิ่นและรสชาติของนมจะกลบกลิ่นชา ก่อนจะเลือกชงเครื่องดื่มควรที่จะรู้ถึงเอกลักษณ์ของใบชาต่าง ๆ ด้วย
เทคนิคสำหรับการชงชาจากเครื่อง คือ เมื่อนำใบชาใส่ก้านชงเสร็จแล้ว ให้นำก้านชงเข้าเครื่องแล้วกดน้ำร้อนผ่านใบชา 3 วินาที แล้วกดหยุด (เป็นการพักชาเพื่อให้ใบชาขึ้นฟู ช่วยดึงกลิ่น และรสชาติของใบชาออกมาได้ดี) จากนั้นให้นับเวลาอีก 20 วินาที แล้วค่อยกดน้ำชาตามที่ต้องการ
เคล็ดลับเพิ่มความอร่อยของชา
- นำอุปกรณ์ในการดื่มชาลวกผ่านน้ำร้อนก่อนใช้ เพื่อช่วยดึงรสชาติ กลิ่นหอมของใบชาได้มากขึ้น เพื่อให้ชามีความอร่อย และเพิ่มอรรถรสในการดื่มมากขึ้น
- ชาแบบซองแค่แช่ไว้ไม่ต้องแกว่งชา สำหรับร้านไหนที่ใช้ชาแบบซองสำเร็จรูป เชื่อว่าหลายคนคงไม่ทราบว่าควรแช่ไว้นานเท่าไหร่ ยกตัวอย่างบางคนแค่เทน้ำร้อนแล้วนำชาใส่ลงไป แล้วทิ้งไว้แค่ 30 วินาที – 1 นาที ก็นำถุงชาออกแล้ว เพราะบางคนเห็นว่าสีของน้ำชาเปลี่ยนแล้ว ก็ถือว่าได้แล้ว แต่จริง ๆ แล้วรู้หรือไม่ว่า รสชาติและคุณภาพของชายังได้ไม่เต็มที่ การแช่ชาซองที่ถูกต้อง ควรที่จะแช่ทิ้งไว้ 3 นาที เพื่อให้รสชาติและกลิ่นของชาออกมาชัดเจนที่สุด เมื่อครบเวลาแล้วก็ก็นำถุงชาออก
** ไม่ควรกระตุกซองชา แต่ควรปล่อยไว้นิ่ง ๆ ตลอดเวลา 3 นาที** - เก็บใบชาให้ถูกวิธี ใบชาแห้งทุกชนิดเมื่อซื้อมาแล้ว ควรเก็บใส่ในภาชนะที่มีฝาปิดสนิท เพื่อเป็นการรักษาคุณภาพชา ทั้งสี กลิ่น รสชาติ และที่สำคัญไม่ควรวางไว้ในพื้นที่ที่มีกลิ่นแรง เพราะใบชามีสรรพคุณนการดูดซับกลิ่นที่ดี จะทำให้ใบชามีกลิ่นที่ผิดเพี้ยนได้
รู้แล้วใช่ไหมว่าการจะทำชาให้หอมอร่อยไม่เพียงแค่การเลือกใบชาคุณภาพดี แต่ยังต้องใส่ใจในขั้นตอนต่าง ๆ ทั้งเวลาการแช่ ปริมาณที่ต้องพอเหมาะ การเลือกใช้วัตถุดิบที่ไม่กลบกลิ่นชา เลือกวัตถุดิบที่ช่วยชูรสชาติของชา ทั้งนี้ปัญหาชาจืด ชาฝาด ก็จะหมดไป เพียงคุณตามเคล็ดลับดังกล่าว รับรองว่าชาของคุณจะเข้มข้น หอมอร่อยสุด ๆ และสามารถที่จะดึงดูดลูกค้าเข้าร้านได้อย่างต่อเนื่องเพราะชาดีมีลูกค้าทุกวันแน่นอน
สำหรับใครที่ต้องการอยากจะมีเมนูเครื่องดื่มเพิ่มเติม เพื่อเอาใจลูกค้า ก็ต้องเลือกใช้ใบชาดีกลิ่นหอม ของโรงคั่วชา bluemocha ที่มีให้เลือกมากกว่า 30 รายการ นอกจากนี้เรายังมีสูตรชง ที่สามารถนำไปปรับใช้กับร้านของคุณได้เลย หรืออยากจะดูเคล็ดลับต่าง ๆ เกี่ยวกับร้านชาไข่มุก ร้านกาแฟ ก็สามารถดูเพิ่มเติมที่ บทความของเรา
สินค้าอื่น ๆ