เริ่มต้นด้วยงบ 2,000 สู่ความสำเร็จของร้านกาแฟปื๊นขัว
“ต้องการเงิน ต้องการมีรายได้เพิ่มมากขึ้น” จุดเริ่มต้นในการเปิดร้านของ ร้านกาแฟปื๊นขัว ไม่ว่าจะมีร้านกาแฟเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน แต่ด้วยความอยากมีรายได้ที่มากกว่าเดิม จึงทำให้ตัดสินใจย้ายร้านจากหน้าบ้านสู่ทำเลที่ใช่ ทำให้ขายดีมาจนทุกวันนี้ !!
>> จุดเริ่มต้นของ ร้านกาแฟปื๊นขัว
“พี่หอม” เจ้าของร้านกาแฟปื๊นขัว กล่าวว่า “ก่อนหน้านี้ก็เปิดร้านขายที่หน้าบ้าน ขายทั้งแบบแก้วและแบบขวด แต่มีลูกค้าน้อย ร้านเงียบมาก คนรู้จักที่แวะเวียนผ่านไปผ่านมาจึงแนะนำให้มาตั้งร้านขายด้านนอกดีกว่า แม้ว่าในช่วงแรกแฟนจะยังไม่สนับสนุน ”
“ตัดสินใจในการย้ายร้านจากบ้านมาขายตรงนี้ไม่นาน บอกวันนี้พรุ่งนี้มาขายเลย”
ครั้งแรกที่ย้ายจากหน้าบ้านได้ไปตั้งต้นขายอีกหนึ่งพื้นที่ แต่พื้นที่ตรงนั้นไม่อนุญาตให้ขาย คนรู้จักเลยแนะนำให้มาขายพื้นที่ตรงนี้ ในช่วงแรกพื้นที่ตรงนี้มีแค่ร้านขายไอติม เลยตัดสินใจเลือกทำเลที่นี่ แล้วลองขายดู ลูกค้าตรงนี้โอเคกว่าที่บ้าน มีลูกค้าเยอะ ลูกค้าแวะเวียนมาบ่อย จึงทำให้เปิดร้านที่นี่ได้ประมาณ 1 ปี ตั้งแต่วันนั้นจนมาถึงวันนี้
ช่วงเวลาที่ขายดีก็จะตั้งแต่เปิดร้าน 7 โมง ไปจนถึง 8 โมง โดยลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มคนที่แวะมาซื้อก่อนไปทำงาน หรือกลุ่มผู้ปกครองที่ไปรับ-ส่งลูกที่โรงเรียน ถือว่าเป็นช่วงเวลาของลูกค้าประจำเลยก็ว่าได้ และหลังจากนั้นลูกค้าจะทยอยมาเรื่อย ๆ ตลอดทั้งวันจนปิดร้าน ประมาณ 14:30 น.
>> เริ่มต้นเปิดร้านด้วยงบเท่าไหร่ ?
“เงินลงทุนเพียง 2,000 บาท และใช้อุปกรณ์ที่มีติดบ้านอยู่แล้ว”
“เริ่มต้นด้วยสิ่งของที่มีภายในบ้าน หม้อต้มโมก้าพอท 2 หม้อ สำหรับชงเมนูชา 1 เครื่อง และสำหรับชงเมนูกาแฟ 1 เครื่อง ได้โต๊ะมาจากแฟน และในช่วงที่เริ่มต้นเปิดร้าน จึงไม่ได้ลงทุนซื้อของเยอะ มีเพียงแค่งบประมาณในการลงทุนซื้อโมก้าพอทเพื่อเพิ่มอุปกรณ์ชง ซื้อเมล็ดกาแฟ และผงชา
ที่ร้านเลือกใช้โมก้าพอทตั้งแต่เริ่มต้นเปิดร้านในการชงเครื่องดื่มขายให้กับลูกค้า ในช่วงที่เปิดร้านแรก ๆ ไม่ได้มีความรู้ในการชงขาย ต้องอาศัยความรู้จากลูกค้าที่เข้ามาสั่งซื้อ เช่น ระดับความหวานที่แตกต่างกัน บางคนชอบหวานมาก บางคนชอบหวานน้อย
ตอนเปิดร้านใหม่ ๆ ยังไม่มีเมนูร้อน มีแต่เมนูกาแฟพื้นฐานยอดนิยม เช่น เอสเพรสโซเย็น คาปูชิโน่ แล้วค่อย ๆ เพิ่มขึ้นมาเรื่อย ๆ ตามคำเรียกร้องลูกค้า พยายามเรียนรู้จากความต้องการของลูกค้า จดจำเมนูที่ลูกค้าชอบ จำได้ว่ารถคันนี้คือลูกค้าคนไหนชอบดื่มเมนูอะไร จนตอนนี้ใช้น้ำแข็งอยู่ที่ 2 กระสอบครึ่งต่อวัน และขายได้ประมาณ 100 แก้วต่อวัน
“ในช่วงแรกที่มาขาย ขายได้ไม่ถึง10 แก้วต่อวัน ใช้น้ำแข็งแค่ครึ่งกระสอบ“
ที่ร้านยังเปิดขายผ่านช่องทางเดลิเวอรี่ด้วย บนแอปฯแกรบ และไลน์แมน เพื่อรองรับลูกค้าให้ได้มากขึ้นแต่ลูกค้าไม่นิยมสั่งผ่านแอป อาจเป็นเพราะพื้นที่บริเวณนี้มีร้านกาแฟจำนวนมาก ปกติขายหน้าร้าน 40 บาท ในแอปฯจะขายอยู่ที่ 55 บาท เนื่องจากมีค่าบริการอื่น ๆ เพิ่มเติม
และนอกจากขายที่หน้าร้านแล้ว บางครั้งก็จะไปขายที่ตลาดนัด “กาดขวัญเวียง” ช่วงตอนเย็นของวันอาทิตย์ ด้วยการชงชาแบบลิตรขาย ตักใส่แก้วขาย แก้วละ 20-25 บาท อีกหนึ่งช่องทางในการสร้างยอดขาย โดยส่วนใหญ่ก็จะชงขายอยู่ที่ 6 เมนู เน้นเป็นเมนูขายดีหลัก ๆ อย่าง ชาเขียว, ชาไทย, ชามะนาว, นมชมพู, และเมนูอื่น ๆ แล้วแต่วัน
>> การเปลี่ยนแปลงจากวันนั้น
“เปลี่ยนแปลงเยอะมากค่ะ” ตอนมาแรก ๆ อย่างที่บอกต้องใช้อุปกรณ์หรือสิ่งของที่มีในบ้านมาใช้ เริ่มต้นด้วยโต๊ะ 1 ตัว เพื่อวางของและสำหรับชงขาย ไม่มีร่มสำหรับบังแดด เมื่อขายไปได้ซักพัก เริ่มมีลูกค้าแวะเวียนมาซื้อ จึงได้เพิ่มโต๊ะเป็น 2-3 โต๊ะ และเมื่อลูกค้าเยอะขึ้น รวมถึงเหนื่อยกับการเก็บโต๊ะทุกวัน จึงนำเงินที่ได้จากการขายเครื่องดื่ม ตั้งแต่การเริ่มต้นลงทุน 2,000 บาทในครั้งนั้น ตัดสินใจเลือกซื้อซุ้มกาแฟ เพื่อทำเป็นหน้าร้าน ทั้งจัดเก็บง่าย สะดวกต่อการชงเครื่องดื่มมากขึ้น จนกลายมาเป็นร้านที่เห็นอยู่ในวันนี้
จากแค่เมนูชากาแฟพื้นฐาน ก็เริ่มมีเมนูเครื่องดื่มเอาใจลูกค้ามากขึ้น อย่าง เมนูอิตาเลี่ยนโซดา เมนูชานมไข่มุก ยกเว้นเมนูปั่น เนื่องจากไม่มีไฟฟ้าใช้ หรือหากลูกค้าสั่งนอกเหนือจากเมนูที่มี พี่หอมก็สามารถทำให้ลูกค้าได้ จะผสมเมนูไหน ๆ เข้าด้วยกันก็จัดให้ได้
>> เทคนิครักษาลูกค้า
“หัวใจหลักของร้าน คือ การให้ใจกับลูกค้าที่มาสั่งซื้อเครื่องดื่มของเรา”
“ลูกค้าเคยถามว่า ทำไมถึงขายเมนูร้อนราคาถูก” คือเราไม่ได้หวังกำไรเยอะ ลูกค้าอยู่ได้เราก็อยู่ได้ จะเห็นได้ว่าทางร้านเราขายเครื่องดื่มเริ่มต้นที่ 30 บาท และสูงสุดแค่ 50 บาท
นอกจากการใส่ใจลูกค้า บริการเป็นมิตร ยิ้มแย้มแจ่มใส ร้านก็ยังมีโปรโมชั่นดี ๆ มอบให้กับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น การจัดโปรโมชั่น ซื้อ 10 แก้ว แถม 1 แก้ว
ด้วยการสะสมแต้มผ่านไลน์ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยใช้เป็นบัตรสะสม รวมถึงการรับเครื่องดื่มฟรี 1 แก้วในวันเกิด จะเลือกดื่มเมนูไหนก็ได้ และสุดท้ายเพียงแค่เช็กอิน
พร้อมกับถ่ายรูปลงโซเชียล ลดทันที 5 บาท เราอยากมอบความพิเศษคืนให้กับลูกค้าบ้าง ลูกค้าแฮปปี้เราก็แฮปปี้
>> อยากฝากอะไรให้กับคนที่อยากเริ่มต้นเปิดร้านกาแฟ
“ไม่ใช่แค่คิด แต่ต้องลงมือทำเลย”
ไม่ต้องคิดเยอะค่ะ ลองเริ่มต้นด้วยการซื้อหม้อต้มโมก้าพอท 1-2 ใบมาลองชงขายก่อนก็ได้ หรือยังไม่ต้องเตรียมอุปกรณ์เยอะ นำสิ่งที่มีอยู่ภายในบ้านมาใช้ก่อน
หรือหากยังไม่กล้าชงขายก็ลองชงดื่มเองที่บ้านก่อนไ้ด้ เพื่อหารสชาติที่ชอบ เริ่มต้นเท่าที่มีก่อน แล้วค่อย ๆ ขยับขยายในการซื้อวัตถุดิบอุปกรณ์ รวมถึงค่อย ๆ
เพิ่มเมนูเครื่องดื่มในร้าน แล้วบริการลูกค้าด้วยความจริงใจ
“พี่หอม” หอมนวล นายจิ่ง : เจ้าของร้านกาแฟปื๊นขัว
Page facebook : กาแฟปื๊นขัว
ร้านเปิดทุกวัน เวลา 07:30 – 14:30 น.
อ่านเพิ่มเติม