จากอดีตพนักงานประจำ สู่การเป็นเจ้าของร้านกาฟงกาแฟ
“เบื่องานประจำ ต้องตื่นตามเวลา ทำงานตามเวลา ตื่นอีกวันก็ต้องไปทำงานอีกแล้ว รู้สึกได้พักผ่อนน้อย รู้สึกชีวิตวนลูป แถมบางทีงานที่ทำก็ไม่ได้มีใจอยากทำ ไหนจะเพื่อนร่วมงานอีก เมื่อรู้สึกเหนื่อยจึงตัดสินใจลาออก เพื่อมากำหนดเวลาชีวิตตนเองดีกว่า” เรื่องราวของ “อ๊อฟ” อดีตพนักงานร้านกาแฟ ที่กล้าตัดสินใจลาออกจากงานประจำ แล้วทำตามเป้าหมายที่กำหนดไว้แต่แรก คือการเป็นเจ้าของร้านกาแฟ
“เป้าหมายในชีวิตจริง ๆ คือ อยากเปิดร้านกาแฟ”
เนื่องจากรู้เป้าหมายของตนเองตั้งแต่แรกอยู่แล้ว คือ การอยากมีร้านกาแฟเป็นของตนเอง จึงเริ่มต้นด้วยการหางานเกี่ยวกับร้านกาแฟ เพื่อเรียนรู้และเก็บเกี่ยวประสบการณ์การทำงานจากร้านกาแฟนานหลายปี จนถึงเวลาที่เหมาะสม และเชื่อว่าพอมีความรู้ในด้านนี้ มีทักษะเบื้องต้นที่จะก้าวไปสู่การเป็นเจ้าของร้านกาแฟเองได้ และในช่วงอายุ 29-30 ปีนี่แหละที่คิดว่าเหมาะสมมาก ๆ กับแนวคิดที่ว่า “เริ่มต้นไวก็จะทำให้เราได้เรียนรู้ไวด้วย และมีโอกาสในการพัฒนาไปเรื่อย ๆ”
“ร้านกาฟงกาแฟ” กับจุดเริ่มต้นที่มีเพื่อนมาร่วมเป็นหุ้นส่วนด้วย และทำเลที่ตั้งในพื้นที่ที่คุ้นเคย ย่านมหาวิทยาลัยแม่โจ้ กับการขับรถตะเวนหาเองประมาณ 2 วัน ด้วยเหตุผลที่เลือกพื้นที่นี้เพราะแต่ก่อนเคยมาอยู่พอรู้จักที่ทาง แถมยังสามารถหาตึกเช่าได้ในราคาที่รับได้ ราคาค่าเช่าไม่ได้แพงเท่าในตัวเมือง และยังอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ทำให้มีกลุ่มลูกค้าหลัก ๆ เป็นนักศึกษา รองลงมาก็จะเป็นกลุ่มลูกค้าทั่วไป
“รู้ว่าทำเลประมาณนี้กลุ่มลูกค้าจะเป็นนักศึกษา เลยตั้งราคาขายเริ่มต้นที่ 25 บาท”
เริ่มต้นทำธุรกิจด้วยงบประมาณที่จำกัด ไม่ว่าจะในส่วนของค่าเช่า ค่ามัดจำตึกสำหรับเปิดร้าน, อุปกรณ์หลัก ๆ อย่างเครื่องชงกาแฟ ที่เลือกใช้เครื่องชงมือ 2 ด้วยการสั่งซื้อใน facebook marketplace, ค่าวัตถุดิบผงชาเมล็ดกาแฟ, นมสด, นมข้นหวาน ฯลฯ รวมถึงอุปกรณ์ต่าง ๆ อย่าง เครื่องชั่งดิจิทัล, เหยือกชง, เครื่องปั่น, แก้วสำหรับใส่เครื่องดื่ม และอื่น ๆ ที่จำเป็นเบื้องต้นสำหรับในการเปิดร้านกาแฟ ในงบประมาณที่ลงทุนครั้งแรกอยู่ที่ 35,000 บาท
“เปิดร้านครั้งแรกมีโต๊ะเล็ก ๆ รับรองลูกค้าแค่ 1-2 โต๊ะและบาร์ในการกาแฟ
แล้วค่อย ๆ ขยับขยายมาเรื่อย ๆ จนมีพื้นที่รองรับลูกค้าได้มากขึ้น”
เนื่องจากเป็นทำเลใกล้กับมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ทำให้ย่านนี้มีร้านขายชากาแฟอยู่จำนวนมาก เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เป็นที่มาของการเปิดร้านทุกวัน เปิดร้านตั้งแต่ 09:00-24:00 น. โดยลูกค้าส่วนใหญ่จะสั่งซื้อช่วงเช้าเป็นช่วงก่อนเข้าเรียน และหลังบ่าย 2 จะเริ่มเงียบ และจะมาตอนช่วงเย็น ๆ อีกครั้งไปจนถึงดึกอีกที อาจเป็นพวกนักศึกษาที่ทำงานช่วงดึก และขายดีในช่วงที่มีการสอบ
และนอกจากหน้าร้านแล้วทางร้านก็ยังมีการเปิดขายบนแอปพลิเคชั่น Food Delivery สามารถสั่งซื้อผ่านได้ทั้ง Shopeefood, Foodpanda, Lineman และGrab, ค้นหาร้านค้าบนแอปฯได้เลยชื่อว่า “ร้านกาฟงกาแฟ” และมีเมนูเหมือนกับหน้าร้าน ยกเว้นเมนูร้อน นับว่าเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะช่วยเพิ่มยอดขายของร้านได้ แถมในแอปฯยังมีการจัดโปรโมชั่นตามแคมเปญของแอปฯต่าง ๆ อีกด้วย สามารถสั่งซื้อผ่านแอปฯ เพื่อรับราคาที่ถูกกว่าได้เลย เช่น ซื้อเซ็ตคู่ถูกกว่า จากปกติหน้าร้านขายแก้วละ 40 บาท ซื้อ 2 แก้ว 80 บาท แต่โปรโมชั่นในแอปฯจะลดเหลือ 70 บาท
“เริ่มต้นเปิดขายหน้าร้านพร้อมกับร้านค้าบนแอปฯ จึงช่วยให้ร้านมียอดขายที่เติบโตไว”
ตอนนี้เปิดร้านมาแล้ว 1 ปีครึ่ง เปรียบเทียบยอดขายจากปีที่แล้วกับปีนี้ก็นับว่ามียอดขายเพิ่มมากขึ้น จากปีที่แล้วขายได้สูงสุด 70 แก้ว/วัน แต่ตอนนี้ขายได้สูงสุด 80-90 แก้ว/วัน และเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งเมนูขายดีหลัก ๆ ของทางร้านก็จะเป็นเมนูชาเขียว, เมนูชาไทย เพราะมีรสชาติต่างจากร้านทั่วไป โดยทางร้านจะพิเศษตรงที่มีสูตรเฉพาะของทางร้านทำให้ชงออกมาแล้วมีรสชาติอร่อยเข้มข้น มีกลิ่นหอมชาชัดเจน เลยทำให้ลูกค้าชื่นชอบและสั่งกันเยอะ เป็นเมนูที่ใครมาร้านต้องลอง !
“คัดสรรผงชาคุณภาพ ทดลองชิมด้วยตนเองก่อนนำมาชงขายให้ลูกค้า จึงทำให้ได้รสชาติที่ใช่”
และภายในร้านนอกจากจะขายเครื่องดื่มแล้ว ก็ยังมีเมนูอาหารขายด้วย เนื่องจากเพื่อนที่อยู่ด้วยกันอยากมีร้านอาหาร จึงตัดสินใจขายทั้งเครื่องดื่มและอาหารไปพร้อม ๆ กัน เลยทำให้ร้านของเรามีทางเลือกมากขึ้นสำหรับลูกค้า
อ่านเพิ่มเติม
- เบื้องหลังความสำเร็จ street coffee crew
- เคล็ดลับความสำเร็จ ใน Food Delivery
- เริ่มต้นด้วยงบ 2,000 บาท สู่ความสำเร็จร้านกาแฟปื๊นขัว
อยากฝากอะไรให้กับคนที่อยากเปิดร้าน ?
สำหรับใครที่ต้องการเปิดร้าน แนะนำว่าควรมีการวางแผนศึกษาหาความรู้และฝึกทักษะเกี่ยวกับการชงเครื่องดื่มก่อน ที่สำคัญคือต้องมีความกล้าที่จะมาลองเสี่ยงในการเริ่มต้นทำธุรกิจ ด้วยการลาออกจากงานประจำ อาจทำให้มีรายได้ที่ไม่แน่นอน
แต่ถ้าเรามีเป้าหมายที่ชัดเจน การเลือกออกมาตามเส้นทางที่วางไว้ แม้จะเจอข้อผิดพลาด แต่นั่นก็คือประสบการณ์ที่จะช่วยสอนเราเรียนรู้และเกิดพการพัฒนาให้โตขึ้น ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่ดี
หากใครที่มีงบประมาณจำกัด ก็ไม่จำเป็นต้องเลือกใช้เครื่องชงกาแฟ แต่สามารถเริ่มต้นเปิดร้านด้วยการใช้ถุงกรอง หม้อโมก้าพอทแทนได้ แต่ควรมีเมนูยอดนิยม
ติดร้านไว้อย่างเมนูกาแฟพื้นฐาน อเมริกาโน่, คาปูชิโน่, ลาเต้, มอคค่า, เอสเพรสโซ ส่วนเมนูชาที่ควรมีติดร้านก็คือ ชาไทย, ชาเขียว, ชาไต้หวัน และเพื่อเป็นการดึงดูดลูกค้าเข้าร้าน ควรมีท็อปปิ้งอย่างฟองนม, วิปครีม, และไข่มุก หรือหากไม่สะดวกในการต้มก็สามารถเลือกซื้อมุกสำเร็จรูป อย่างมุกบุกได้เลย
“เรียนรู้จากประสบการณ์ที่ผิดพลาด จะช่วยให้เราเติบโตไปอีกขั้น”
ช่วงฝากร้าน…..
“ร้านกาแฟงกาแฟ” ของเรามีเมนูเครื่องดื่มให้เลือกหลากหลายทั้งเมนูกาแฟ ชาเขียว ชาไทย รวมถึงเมนูน้ำปั่น ราคาเริ่มต้นแค่ 25 บาทเท่านั้นเอง สำหรับพิกัดร้านจะอยู่ที่ซอยตรงข้ามม.แม่โจ้ ซอยธนาคารกรุงไทย ซอยซ้ายมือ ซอย 10 ขับมาเรื่อย ๆ ร้านจะอยู่ซ้ายมือ หรือสามารถสั่งซื้อผ่านแอปฯได้ ค้นหาร้าน “กาฟงกาแฟ”
และสำหรับใครที่อยากสั่งอาหารก็สามารถค้นหาร้าน “กับคงกับข้าว” ได้เช่นกัน
“อ๊อฟ” ภานุพงศ์ ชิดเชี่ยว เจ้าของร้านกาฟงกาแฟ แม่โจ้
เปิดทุกวัน เวลา 09:00-24:00 น.
พิกัดร้าน : https://maps.app.goo.gl/dL85Jd9d3m9yy1rL9