เพิ่มตัวเลือกระดับการคั่วกาแฟ ช่วยดึงดูดลูกค้าเข้าร้านมากขึ้น
ระดับการคั่วกาแฟ อีกหนึ่งจุดขายของหลาย ๆ ร้านกาแฟที่ชวนดึงดูดลูกค้าได้จำนวนมาก แม้ว่าเครื่องดื่มเมนูกาแฟจะเป็นเมนูยอดนิยม ฟังดูแล้วเป็นเมนูปกติทั่วไป แต่จริง ๆ แล้ว
กว่าจะมาเป็นกาแฟอร่อย ๆ ซักแก้วก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ที่สำคัญการจะทำให้กาแฟซักแก้วถูกใจลูกค้า หันกลับมาซื้อกาแฟที่ร้านทุกวันนั้น เราต้องเสิร์ฟกาแฟในแบบที่ลูกค้าชอบนั่นเอง
จากที่กล่าวไปข้างต้นกาแฟที่ดีคือกาแฟที่ลูกค้าชอบ ตรงตามความต้องการของลูกค้าคนนั้น ๆ ดังนั้นอีกหนึ่งความสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเลย คือระดับการคั่วกาแฟ เพราะลูกค้าที่เข้าร้านทุกคนล้วนมีความต้องการรสชาติของกาแฟที่ต่างกันออกไป ดังนั้นหากร้านไหนที่สามารถให้ลูกค้าเลือกระดับการคั่วเมล็ดกาแฟได้ ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสในการดึงดูดลูกค้าเข้าร้านมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
วันนี้ทาง bluemocha เราจึงไม่พลาดที่จะนำข้อมูลเกี่ยวกับระดับการคั่วเมล็ดกาแฟมาแบ่งปันกัน ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร ชงแล้วให้รสชาติแบบไหน พร้อมแล้วตามเรามาดูกันได้เลย
รสชาติที่แตกต่างกับ 3 ระดับการคั่วกาแฟ
ระดับกาแฟคั่วอ่อน (LIGHT ROAST)
กาแฟคั่วอ่อน จะมีสีน้ำตาลอ่อน ดูมีความแห้งเพราะโดนความร้อนไม่เยอะ จึงทำให้ไม่มีน้ำมันออกมาเคลือบผิวเมล็ดกาแฟ ซึ่งถือว่าเป็นการคั่วที่ยังคงความธรรมชาติของเมล็ดกาแฟไว้มากที่สุด และจะได้รับรสชาติออกไปทางเปรี้ยว มีความขมน้อย มีระดับปริมาณคาเฟอีนที่มาก ถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวเลยก็ว่าได้ หลาย ๆ ร้านกาแฟนิยมเลือกการคั่วในระดับนี้เพื่อให้ลูกค้าได้รับรสชาติความหอม ความเข้มข้นของกาแฟที่ดีที่สุด และเหมาะที่จะนำไปชงแบบการดริป ไซฟ่อน หรือสโลบาร์ต่าง ๆ
ระดับกาแฟคั่วกลาง (MEDIUM ROAST)
ระดับกาแฟที่นิยมใช้กันเยอะมาก เพราะสามารถรังสรรค์เมนูกาแฟนมได้หลากหลาย ทั้งเมนูร้อนและเมนูเย็น อย่างเมนูยอดฮิตที่ลูกค้าชอบดื่ม ลาเต้ คาปูชิโน่ มอคค่า เป็นต้น ซึ่งตัวเมล็ดกาแฟจะมีสีที่เข้มขึ้นจากตัวกาแฟคั่วอ่อน และจะมีน้ำมันจากการคั่วเกาะบนตัวเมล็ดกาแฟมากขึ้น เพราะโดนความร้อนนานขึ้น จึงทำให้มีรสชาติเปรี้ยวที่ไม่มาก และยังไม่มีความขมมาก ชงเครื่องดื่มแล้วกลมกล่อมลงตัว
ระดับกาแฟคั่วเข้ม (DARK ROAST)
เมล็ดกาแฟแบบคั่วเข้มถือว่าเป็นอีกหนึ่งระดับการคั่วที่นิยมเลือกใช้กันมานาน ซึ่งจะได้เมล็ดกาแฟที่มีสีน้ำตาลเข้ม เพราะผ่านการโดนความร้อนที่นาน และจะมีน้ำมันเคลือบผิวเมล็ดกาแฟเยอะ แทบจะไม่มีความเปรี้ยวของกาแฟหลงเหลืออยู่ แต่จะมีปริมาณคาเฟอีนที่น้อย มีกลิ่นติดไหม้ปะปนมา และมีความขมเพิ่มขึ้น จึงนิยมนำมาทำเป็นเมนูกาแฟเย็น หรือเน้นความเข้มข้นหวานมัน
จากข้อมูลที่กล่าวไปข้างต้น ระดับการคั่วเมล็ดกาแฟต่างกัน ทำให้รสชาติได้รสชาติ รสสัมผัสของกาแฟที่ต่างกันไปด้วย แถมยังเหมาะที่จะนำไปชงเมนูกาแฟต่างกัน ดังนั้นการมีระดับการคั่วเมล็ดกาแฟให้ลูกค้าได้เลือกตามใจชอบ จะถือเป็นการเอาใจลูกค้าอย่างหนึ่ง และช่วยเพิ่มความประทับใจให้กับลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น รับรองว่าลูกค้าจะกลับมาซื้อกาแฟที่ร้านของคุณอย่างแน่นอน ต่างจากร้านกาแฟอื่น ๆ ที่ลูกค้าไม่สามารถเลือกระดับการคั่วของเมล็ดกาแฟได้นั่นเอง
หรือสำหรับร้านที่มีลูกค้าคนใหม่ที่ไม่เคยดื่มกาแฟแล้วอยากลอง ทางร้านเองก็สามารถที่จะแนะนำ รวมถึงสอบถามเพื่อชงเครื่องดื่มกาแฟให้ตรงตามความต้องการของลูกค้าคนนั้น ๆ ให้ได้มากที่สุด ตลอดจนไปถึงต้องไม่ลืมว่าการเปิดร้านกาแฟที่ดี ควรจะมีเมนูเครื่องดื่มประเภทนม ชา หรืออื่น ๆ เพื่อเป็นเมนูตัวเลือกให้กับลูกค้าคนที่ดื่มกาแฟ ดึงดูดลูกค้าที่ชอบดื่มเมนูอื่น ๆ ให้เข้าร้านของคุณมากขึ้น ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะช่วยเพิ่มยอดขายให้กับร้านของคุณได้อย่างดี
สำหรับใครที่อยากจะได้ใบชา ผงชาสำหรับรังสรรค์เมนูเครื่องดื่มให้กับลูกค้า แนะนำให้เลือกใช้ใบชาชงเครื่องดื่มที่มีคุณภาพ อย่างใบชาของโรงคั่วชา bluemocha ที่ผลิตจากใบชาแท้ นำมาผ่านกระบวนการผลิตที่พิถีพิถัน จึงทำให้ได้ใบชาที่เหมาะสำหรับชงเครื่องดื่ม มีกลิ่นที่หอมมาก แถมให้รสชาติของน้ำชาที่เข้มข้น และพิเศษคือมีใบชาให้ได้เลือกใช้มากกว่า 30 รายการ ทั้งใบชาเขียว ใบชาแดง ใบชาไต้หวัน ผงโกโก้ ผงมัทฉะ เมล็ดกาแฟ และอื่น ๆ อีกมากมาย
นอกจากใบชาคุณภาพดีแล้ว ทางเราก็ยังมีสูตรชงเครื่องดื่มสุดอร่อยอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น สูตรชงชาไทย สูตรชงโกโก้ สูตรชงชาไต้หวัน สูตรชงชาเขียว เมนูน้ำบ๊วย
เครื่องดื่มโบราณ เมนูน้ำผลไม้ สูตรชาเขียวถุงกรอง ชาแดงจากmokapot เป็นต้น คลิกดูสูตรชงเครื่องดื่ม รวมไปถึงเทคนิคที่เกี่ยวกับร้านกาแฟ ร้านชาไข่มุก ทางเราก็มีข้อมูล เคล็ดลับดี ๆ ที่จะช่วยในการอำนวยความสะดวกต่อร้านของคุณ เช่น การชงชาแบบลิตร การทำน้ำเชื่อมเอง ทำไข่มุกเอง ตีวิปครีมกล่องเอง แม้แต่การทำท็อปปิ้งเครื่องดื่มอย่าง ฟรุตสลัดผลไม้สด ทำนมเหนียว ทำซอสท็อปปิ้ง และอีกมากมาย คลิกดูบทความเพิ่มเติม
สินค้าอื่น ๆ