บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจถึงความแตกต่างระหว่าง

ชาอัสสัม VS ชาซีลอน คืออะไร ? แตกต่างกันอย่างไร ?

Advertisements
ความแตกต่างระหว่าง ชาอัสสัม VS ชาซีลอน ตั้งแต่แหล่งปลูก ไปจนถึงรสชาติและการนำไปใช้ในการชงชาแบบต่าง ๆ

ชาอัสสัม คืออะไร ?

ชาอัสสัม (Assam Tea) เป็นชาดำที่มีชื่อเสียงมาจากทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ปลูกชาที่ใหญ่ที่สุดในโลก ชาอัสสัมเป็นที่รู้จักในวงกว้างในฐานะชาเข้มข้นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งในเรื่องของรสชาติ กลิ่น และสีที่แตกต่างจากชาชนิดอื่น ๆ ชาอัสสัมในประเทศไทยมักถูกนำเข้ามาใช้ในเมนูชาไทยและชานม เนื่องจากความเข้มข้นและกลิ่นหอมของชาอัสสัมสามารถเข้ากันได้ดีกับนมและน้ำตาล ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเครื่องดื่มชานมแบบไทย

ความแตกต่างระหว่าง ชาอัสสัม VS ชาซีลอน ตั้งแต่แหล่งปลูก ไปจนถึงรสชาติและการนำไปใช้ในการชงชาแบบต่าง ๆ

ชาซีลอน คืออะไร ?

ชาซีลอน (Ceylon Tea) เป็นชาดำที่มีต้นกำเนิดจากประเทศศรีลังกา ซึ่งเดิมมีชื่อว่า “ซีลอน” (Ceylon) ในช่วงที่ประเทศนี้เป็นอาณานิคมของอังกฤษ ชาซีลอนเป็นที่รู้จักในระดับสากลในฐานะชาที่มีคุณภาพสูง และเป็นหนึ่งในชาดำที่มีความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลก ความโดดเด่นของชาซีลอนอยู่ที่รสชาติที่กลมกล่อมและกลิ่นหอมละมุนที่ทำให้ผู้ดื่มรู้สึกสดชื่นและผ่อนคลาย ในประเทศไทย ชาซีลอนมักถูกนำมาใช้ในเมนูชาใส่เลมอน หรือชาผสมผลไม้ เนื่องจากรสชาติที่กลมกล่อมของชาซีลอนเข้ากันได้ดีกับผลไม้และน้ำผึ้ง นอกจากนี้ ชาซีลอนยังเหมาะกับการดื่มเป็นชาร้อนในช่วงเวลาที่ต้องการความผ่อนคลายและสดชื่น

ชาอัสสัม (Assam Tea) มีต้นกำเนิดจากประเทศอินเดีย ชาอัสสัมมีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์ของอินเดีย และอุตสาหกรรมการชาทั่วโลก มีการค้นพบต้นชาพันธุ์อัสสัมในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 และถูกนำไปปลูกในหลายพื้นที่ จนเป็นที่รู้จักกันทั่วโลกในฐานะชาอินเดียที่มีเอกลักษณ์

ชาซีลอน (Ceylon Tea) มีต้นกำเนิดจากประเทศศรีลังกา เริ่มมีบทบาทในอุตสาหกรรมชาของโลกในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 เมื่อชาวอังกฤษได้นำต้นชาจากจีนเข้ามาปลูกในศรีลังกา และต่อมาได้กลายเป็นอุตสาหกรรมหลักของประเทศ

ชาอัสสัม (Assam Tea) ปลูกได้ในเขตที่มีความชื้นสูงและอุณหภูมิอบอุ่น ซึ่งเป็นที่ราบลุ่มในแถบแม่น้ำ ด้วยสภาพภูมิอากาศที่เหมาะสม ทำให้ต้นชาอัสสัมเจริญเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมนี้ โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน ชาอัสสัมถือเป็นชาที่ปลูกได้ในระดับต่ำ ซึ่งแตกต่างจากชาพันธุ์อื่น ๆ ที่มักปลูกในพื้นที่สูง แต่ในบางพื้นที่ทางภาคเหนือของประเทศไทย โดยเฉพาะในแถบที่มีภูเขาสูง ก็มีการเก็บชาอัสสัมที่เติบโตในป่าตามธรรมชาติอยู่บ้าง ต้นชาอัสสัมป่ามักจะเติบโตในป่าลึก ซึ่งไม่ผ่านการดูแลจากมนุษย์ ทำให้เป็นชาออร์แกนิกแบบธรรมชาติ 100% ไม่มีสารเคมีหรือยาฆ่าแมลงใด ๆ ชาชนิดนี้ได้รับความนิยมในกลุ่มคนที่ชื่นชอบชาแบบออร์แกนิกและชาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะในเรื่องของรสชาติที่เข้มข้น

ชาซีลอน (Ceylon Tea) เป็นชาที่ปลูกในประเทศศรีลังกา หรือที่เคยเรียกกันว่าซีลอน ซึ่งเป็นที่มาของชื่อชา ซีลอนเป็นเกาะที่ตั้งอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย และมีภูมิอากาศที่หลากหลาย ทำให้ชาที่ปลูกในศรีลังกามีความหลากหลายในรสชาติและลักษณะของชา ชาซีลอนปลูกได้ทั้งในพื้นที่สูงและต่ำ และมีการผลิตชาในหลายภูมิภาคของประเทศ พื้นที่ที่เหมาะสมในการปลูกชาซีลอนในประเทศไทยจะอยู่ในพื้นที่สูง โดยเฉพาะบริเวณดอยต่าง ๆ ทางภาคเหนือของประเทศไทย เช่น จังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่ ซึ่งมีสภาพภูมิอากาศที่ใกล้เคียงกับศรีลังกา ซึ่งมีสภาพดินและภูมิอากาศที่เหมาะสม การปลูกชาซีลอนในไทยมักเป็นการเพาะปลูกแบบออร์แกนิกหรือการปลูกแบบยั่งยืน ทำให้ได้ใบชาที่มีคุณภาพและปลอดสารเคมี

ความแตกต่างระหว่าง ชาอัสสัม VS ชาซีลอน ตั้งแต่แหล่งปลูก ไปจนถึงรสชาติและการนำไปใช้ในการชงชาแบบต่าง ๆ

ชาอัสสัม (Assam Tea) เป็นชาที่มีการผลิตในรูปแบบชาแดงเป็นหลัก กระบวนการผลิตชาอัสสัมเริ่มต้นด้วยการเก็บใบชาในช่วงที่ใบมีความสดและสมบูรณ์ จากนั้นนำมาใส่เครื่องเพื่อให้ใบชาหมัก โดยกระบวนการหมักนี้จะช่วยเพิ่มความเข้มข้นของสีและรสชาติของชา หลังจากการหมักเสร็จสิ้น ใบชาจะถูกนำไปอบแห้งเพื่อรักษาคุณภาพของใบชาและป้องกันการเสื่อมสภาพ

ชาซีลอน (Ceylon Tea) มีการผลิตในหลายรูปแบบ ทั้งชาแดง, ชาเขียว , และชาอู่หลง ซึ่งกระบวนการผลิตจะแตกต่างกันไปตามประเภทของชา สำหรับชาแดงซีลอน ขั้นตอนการผลิตจะเริ่มจากการเก็บใบชา นำไปหมัก และอบแห้ง คล้ายกับกระบวนการผลิตชาอัสสัม แต่ชาเขียวซีลอนจะมีการผ่านกระบวนการอบทันทีหลังจากเก็บใบชา เพื่อป้องกันการหมัก ทำให้ชามีรสชาติที่อ่อนกว่าและสีเขียวที่สดใส

ความแตกต่างระหว่าง ชาอัสสัม VS ชาซีลอน ตั้งแต่แหล่งปลูก ไปจนถึงรสชาติและการนำไปใช้ในการชงชาแบบต่าง ๆ

ชาอัสสัม (Assam Tea) มีความเด่นชัดในเรื่องของความเข้มข้นและรสชาติที่หนักแน่น มีรสชาติฝาดอ่อน ๆ และกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งมักถูกใช้ในส่วนผสมของชาอังกฤษแบบดั้งเดิม

ชาซีลอน (Ceylon Tea) มีคุณสมบัติที่โดดเด่นในเรื่องความสดชื่นและความโปร่งใสของรสชาติ ซึ่งแตกต่างจากความหนักแน่นของชาอัสสัม นอกจากนี้ชาซีลอนยังมีกลิ่นหอมที่นุ่มนวล ทำให้เป็นที่นิยมในการนำไปชงเป็นชาดำหรือน้ำชากับน้ำมะนาว

ความแตกต่างระหว่าง ชาอัสสัม VS ชาซีลอน ตั้งแต่แหล่งปลูก ไปจนถึงรสชาติและการนำไปใช้ในการชงชาแบบต่าง ๆ

ชาอัสสัม (Assam Tea) มีคาเฟอีนสูง ซึ่งช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองและช่วยให้รู้สึกตื่นตัว นอกจากนี้ ชาอัสสัมยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยในการป้องกันการเกิดโรคเรื้อรังอย่างเช่น โรคหัวใจและมะเร็งบางชนิด อีกทั้งการดื่มชาอัสสัมยังช่วยในการเผาผลาญพลังงานและลดความเสี่ยงของการเป็นโรคอ้วน

ชาซีลอน (Ceylon Tea) ชาซีลอนมีคาเฟอีนน้อยกว่าชาอัสสัม จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการรับคาเฟอีนในปริมาณที่น้อย นอกจากนี้ชาซีลอนยังมีสารฟลาโวนอยด์ที่ช่วยในการบำรุงหัวใจและลดความดันโลหิต อีกทั้งยังช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและลดความเสี่ยงของโรคเบาหวาน

Advertisements
ความแตกต่างระหว่าง ชาอัสสัม VS ชาซีลอน ตั้งแต่แหล่งปลูก ไปจนถึงรสชาติและการนำไปใช้ในการชงชาแบบต่าง ๆ

ชาอัสสัม (Assam Tea) รสชาติของชาอัสสัมมีความเข้มข้น หนักแน่น และให้ความรู้สึกเต็มปากเต็มคำเมื่อดื่ม ชามีรสฝาดและขมเล็กน้อย แต่ไม่ถึงกับแรงเกินไป นอกจากนี้ยังมีรสชาติหวานเล็กน้อยที่มาจากการหมักใบชา ซึ่งเป็นคุณลักษณะเฉพาะของชาอัสสัม ความฝาดที่มีในชาช่วยกระตุ้นความรู้สึกของคนดื่ม ทำให้ชาอัสสัมเป็นที่นิยมในการชงเป็นชาใส่นม เช่น ชานม, ชาเย็น เป็นต้น

ชาซีลอน (Ceylon Tea) ชาซีลอนมีรสชาติที่เบาและโปร่งกว่าเมื่อเทียบกับชาอัสสัม มีความสดชื่นและกลิ่นหอมที่ซับซ้อน ชาซีลอนมักจะมีรสฝาดที่นุ่มนวลและไม่หนักจนเกินไป ซึ่งทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับการดื่มในรูปแบบชาดำที่เติมมะนาวหรือน้ำผึ้ง นอกจากนี้ รสชาติของชาซีลอนยังขึ้นอยู่กับแหล่งปลูกด้วย เช่น ชาที่ปลูกในภูมิภาคนูวาราเอลิยา จะมีรสชาติที่ละเอียดและหอมกว่า

ในเรื่องของรสชาติและกลิ่น ชาอัสสัมมีรสชาติที่เข้มข้นและกลิ่นฉุนเป็นเอกลักษณ์ ส่วนชาซีลอนให้รสชาติที่กลมกล่อมและมีกลิ่นหอมละมุนมากกว่า ซึ่งแตกต่างกันอย่างชัดเจนและเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบชาในรูปแบบที่ต่างกันออกไป บทความนี้ เราได้เปิดมุมมองใหม่ในการทำความเข้าใจชาอัสสัมและชาซีลอน ซึ่งทั้งคู่มีเอกลักษณ์ที่น่าสนใจในแบบของตัวเอง หวังว่าคุณจะได้รับความรู้ที่เป็นประโยชน์และสามารถเลือกชาที่ตรงกับความชอบของตัวเองได้มากขึ้น

ความเหมือนของชาอัสสัมกับชาซีลอน

ชาทั้งสองชนิดนี้จะมาจากภูมิภาคที่ต่างกัน แต่ชาอัสสัมและชาซีลอนมีความเหมือนกันในแง่ที่ว่า ทั้งคู่เป็นชาดำจากต้น Camellia sinensis ซึ่งเป็นชาแท้ที่มีสารคาเฟอีนและช่วยให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น

ความแตกต่างของชาอัสสัมกับชาซีลอน

ความแตกต่างหลัก ๆ ที่เห็นได้ชัดคือแหล่งที่มา โดยชาอัสสัมมาจากอินเดีย ในขณะที่ชาซีลอนมาจากศรีลังกา นอกจากนี้ ลักษณะของใบชาก็แตกต่างกัน โดยชาอัสสัมมีใบใหญ่และสีเข้ม ส่วนชาซีลอนมีใบเล็กและสีอ่อน

ทั้งชาอัสสัมและชาซีลอนมีจุดเด่นในเรื่องของความเป็นชาดำที่มีคาเฟอีน แต่การนำมาประยุกต์ใช้ในเมนูเครื่องดื่มในไทยนั้นมีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ชาอัสสัมมักถูกใช้ในเมนูที่ต้องการความเข้มข้นและกลิ่นหอมที่จัดจ้าน เช่น ชานมเย็นหรือชาใส่นม ขณะที่ชาซีลอนเหมาะกับการดื่มแบบใสหรือเป็นเครื่องดื่มที่ต้องการรสชาติที่นุ่มนวล เช่น ชาดำร้อน หรือชาผสมผลไม้ ซึ่งประเทศไทยได้กลายเป็นหนึ่งในประเทศที่สามารถตอบโจทย์รสชาติของผู้บริโภคชาได้ทั้งชาอัสสัมและชาซีลอน ไม่ว่าคุณจะชอบชาที่เข้มข้นหรือชาที่มีกลิ่นหอมละมุน การเลือกชาทั้งสองชนิดนี้ในไทยจึงขึ้นอยู่กับรสนิยมและความต้องการในการดื่มชาของแต่ละคน

หากคุณกำลังมองหาชาอัสสัมคุณภาพดี เรามีจำหน่ายในปริมาณมาก เราโรงงานผลิตชา Bluemocha เชียงใหม่ ที่ผ่านมาตรฐาน GMP ผ่านกระบวนการผลิตที่ได้รับการเอาใจใส่ดูแลเป็นพิเศษในเรื่องของคุณภาพรสชาติและกลิ่น รวมถึงการรักษาความสะอาดในกระบวนการบรรจุ ทุกขั้นตอนผลิตด้วยหลักมาตรฐานสากล ด้วยเครื่องจักรที่ได้มาตรฐาน ชาอัสสัมของเราเป็นชาที่มีรสชาติเข้มข้นและกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการนำไปใช้ในเมนูเครื่องดื่มต่าง ๆ ชาอัสสัมสามารถทำได้หลากหลายเมนู เรามีชาอัสสัมพร้อมส่งในปริมาณมากสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อเพื่อใช้ในธุรกิจร้านชา ร้านกาแฟ หรือการจัดจำหน่าย

สนใจราคาส่ง เริ่มต้น 6 กิโลกรัมขึ้นไป แอดไลน์ @bluemochacoffee

โรงงานผลิตชา Bluemocha มีบริการผลิตชา OEM&ODM ที่มีมาตรฐานสากล มีทีมงานดูแลทุกขั้นตอน ตั้งแต่เริ่มต้นให้คำปรึกษา จัดหาวัตถุดิบ ดูแลในส่วนของกระบวนการผลิต การบรรจุ ตลอดจนไปถึงการหาบริการขนส่งที่เหมาะสม เพื่อให้ถึงมือลูกค้าอย่างปลอดภัย และมีคุณภาพที่ดี สามารถผลิตชาได้หลากหลายชนิด ทั้งยังมีบริการรับพัฒนาสูตรชา และแกะสูตรชาได้ตามความต้องการของลูกค้า มีบริการที่ครบวงจร สามารถช่วยให้คุณเป็นเจ้าของธุรกิจได้ทันที เพราะเรารับผลิตชาหลากหลายชนิด และส่งออกชาไปต่างประเทศอีกด้วย มีกำลังการผลิตที่สูง สามารถรองรับการผลิตตามออเดอร์ที่มีจำนวนมาก สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ หรือต้องการสั่งซื้อสามารถทักมาสอบถามเราได้เลย

หากสนใจทำแบรนด์กับ Bluemocha เริ่มต้นทำแบรนด์ได้เลยเมื่อสั่งผลิต 51 กิโลกรัมขึ้นไป เรามีบริการ ออกแบบโลโก้ฟรี จดอย.ให้ฟรี เมื่อสั่งผลิต100 กิโลกรัมขึ้นไป ยื่นขอรับรองฮาลาล (HALAL) เมื่อสั่งผลิต 500 กิโลกรัมขึ้นไป, ปรับสูตรชาได้ตามความต้องการของลูกค้า, มีตัวอย่างให้ทดลองฟรี !! นอกจากนี้ Bluemocha ยังสามารถที่จะจัดส่งไปยังต่างประเทศ เพราะเรารับสร้างแบรนด์ชาให้กับผู้ที่อยากจะส่งออกชาไปยังต่างประเทศ ด้วยบริการที่ครบวงจร พร้อมด้วยผู้เชี่ยวชาญที่คอยให้คำปรึกษากับลูกค้าตลอดการสั่งซื้อ เราขนส่งสินค้าได้สะดวก รวดเร็ว ทั้งขนส่งทางเรือ และเครื่องบิน เพื่อให้ได้สินค้าที่ปลอดภัย และมีคุณภาพที่ดี หากสนใจสั่งซื้อ เรามีโปรโมชั่นจัดส่งฟรีทั่วประเทศ เมื่อสั่งซื้อ 5,000 Kg. ขึ้นไป และฟรีค่ายื่นจดอย. เมื่อสั่งซื้อ 100 Kg. ขึ้นไป Bluemocha พร้อมให้บริการลูกค้าทุกท่าน

ผู้เขียนบทความชา กาแฟ

WRITTEN BY

Keeratiyanut C.

ชีวิตจิตใจมอบให้แด่ชาและการบริการ แถมเป็นทาสแมวที่หลงรักแมวทุกตัวบนโลกใบนี้ จินตนาการสูงส่ง และชอบทุกความท้าทายพร้อมเผชิญกับปัญหาทุกสถานการณ์

Similar Posts